Sustainability

EN | TH

 

การพัฒนาศักยภาพและรักษาทรัพยากรบุคคล

แนวทางบริหารจัดการ 

นโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล

BDMS มุ่งมั่นในการยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นการสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพ เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร และให้ความสำคัญต่อสวัสดิการและผลประโยชน์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพัฒนาและยกระดับสมรรถนะรวมถึงประสิทธิภาพของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริมเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพอย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่องค์กรได้กำหนดไว้

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีและคุณภาพชีวิตของบุคลากร โดยมุ่งส่งเสริมขวัญและกำลังใจในการทำงาน พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานอย่างมีความสุข ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการหล่อหลอมวัฒนธรรมองค์กรที่เคารพในความหลากหลาย เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศการทำงานที่เปิดกว้างและมีความเข้าใจซึ่งกันและกันในด้านความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง รวมถึงการเคารพในสิทธิของพนักงาน บริษัท BDMS ดำเนินการอย่างเคร่งครัดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 121 ซึ่งกำหนดให้นายจ้างต้องแจ้งให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน หรือกำหนดระยะเวลาขั้นต่ำสำหรับการปรึกษาหารือหรือการแจ้งล่วงหน้าก่อนการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก เพื่อให้พนักงานมีเวลาในการเตรียมความพร้อมหรือแสวงหาโอกาสใหม่ทางอาชีพ บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานอย่างเป็นธรรม โปร่งใส และให้ความเคารพต่อสิทธิของพนักงานอย่างครบถ้วน สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ทางกฎหมายและแนวปฏิบัติที่ดีด้านแรงงาน

โครงการด้านแรงงานสัมพันธ์และแนวปฏิบัติด้านแรงงาน

BDMS มุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนโดยสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยบริษัทให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อแนวปฏิบัติด้านแรงงานที่รับผิดชอบ โดยดำเนินโครงการด้านแรงงานเฉพาะทางเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคลของ BDMS ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมการจ้างงานอย่างเป็นธรรม และคุ้มครองคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน

โครงการดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความโปร่งใส สนับสนุนการจ่ายค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม การคุ้มครองทางสังคม ตลอดจนส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เคารพสิทธิมนุษยชน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาชื่อเสียงและเสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานของ BDMS ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

นอกจากนี้ โครงการด้านแรงงานของ BDMS ยังผสานเข้ากับความพยายามอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยมุ่งเน้นการรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพ ส่งเสริมการทำงานที่มีคุณค่า และเสริมสร้างกำลังแรงงานที่มีความสามารถในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยโครงการด้านแรงงานประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญดังต่อไปนี้

1. ค่าจ้างและค่าตอบแทนมีความเหมาะสม โดยอยู่ในระดับเท่ากับหรือสูงกว่าค่าประมาณค่าครองชีพหรือเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด

BDMS กำหนดค่าตอบแทนของพนักงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานค่าจ้าง ค่าตอบแทนเพื่อการดำรงชีพ (Living Wage) โดยยึดมั่นว่าพนักงานจะได้รับค่าจ้างที่เพียงพอในการครอบคลุมค่าใช้จ่ายพื้นฐานในการดำรงชีวิตของตนเองและครอบครัว โครงการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นขององค์กรในการส่งเสริมงานที่มีคุณค่าและความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจที่ดี ทั้งยังยึดถือหลักการขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ในเรื่องค่าตอบแทนที่เป็นธรรม

BDMS ดำเนินการเปรียบเทียบระดับค่าตอบแทนกับองค์กรชั้นนำอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวของค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อในแต่ละประเทศที่มีการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดแนวทางดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าค่าตอบแทนที่บริษัทมอบให้มีความสามารถในการแข่งขัน เป็นธรรม และสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ นำมาซึ่งการส่งเสริมแรงจูงใจในการทำงาน การรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ และการสร้างความผูกพันกับองค์กรในระยะยาว การดำเนินการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ BDMS ในการขับเคลื่อนนโยบายแรงงานที่รับผิดชอบ และการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการเติบโตขององค์กรควบคู่ไปกับคุณภาพชีวิตของพนักงาน”

2. การบริหารจัดการชั่วโมงการทำงานและอัตราการทำงานล่วงเวลาของพนักงาน

BDMS ได้จัดตั้งโครงการสำหรับการติดตาม วิเคราะห์ และบริหารจัดการชั่วโมงการทำงานของพนักงาน รวมถึงการควบคุมการทำงานล่วงเวลาอย่างเป็นระบบ โดยโครงการนี้ครอบคลุมชั่วโมงการทำงานทั้งหมดที่เกินจากเวลาทำงานปกติที่กฎหมายกำหนดในแต่ละวันหรือแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทมีการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานอย่างเคร่งครัดและสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน

บริษัทฯ มีระบบฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพในการบันทึกและตรวจสอบชั่วโมงการทำงานของพนักงานแบบเรียลไทม์ (Real-Time) สามารถระบุกรณีการทำงานล่วงเวลาเกินกำหนดได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งมีขั้นตอนในการติดตามและบริหารจัดการชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานทำงานเกินชั่วโมงที่ระบุไว้ตามระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ BDMS มุ่งมั่นในการสนับสนุนการชั่วโมงการทำงานและอัตราการทำงานล่วงเวลาของพนักงานทั้งหมดจะได้รับค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม โดยจ่ายค่าตอบแทนการทำงานล่วงเวลาตามอัตราที่กฎหมายแรงงานกำหนด ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมุ่งส่งเสริมความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของพนักงาน ป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากแรงงาน และยึดมั่นในแนวปฏิบัติด้านแรงงานที่รับผิดชอบ ซึ่งสอดคล้องทั้งกับกฎหมายท้องถิ่นและมาตรฐานสากลด้านสิทธิมนุษยชนและแรงงาน

3. ดำเนินการติดตามและตรวจสอบการบริหารค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ระหว่างเพศชายและเพศหญิงโดยไม่เลือกปฏิบัติ 

BDMS มุ่งมั่นในการส่งเสริมความเท่าเทียมในสถานที่ทำงาน โดยดำเนินการตรวจสอบความเหลื่อมล้ำของค่าจ้างระหว่างเพศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานทุกคนได้รับค่าตอบแทนอย่างเท่าเทียมโดยไม่คำนึงถึงเพศ

โครงการนี้ครอบคลุมถึงการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการจ้างงานและค่าตอบแทนอย่างเป็นระบบในทุกระดับและทุกตำแหน่งงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุและแก้ไขความเหลื่อมล้ำของค่าตอบแทนระหว่างพนักงานชายและหญิงอย่างเป็นรูปธรรม โครงการนี้ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสของข้อมูล การเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานภายนอก และการจัดทำรายงานผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนหลักความเสมอภาคและความเป็นธรรมในสถานที่ทำงาน ตลอดจนเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เคารพในความหลากหลายและไม่เลือกปฏิบัติ

4. ส่งเสริมสวัสดิการเพิ่มเติมสำหรับพนักงาน นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์พื้นฐานที่ข้อกำหนดทางกฎหมายขั้นต่ำ

BDMS ยึดมั่นในการส่งเสริมความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม (Diversity, Equity, and Inclusion: DEI) อันเป็นรากฐานสำคัญในสนับสนุนโครงการสวัสดิการพนักงานที่ครอบคลุมและตอบสนองต่อความต้องการของพนักงานทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม มากกว่าการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายขั้นต่ำ โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี และจัดให้มีการคุ้มครองทางสังคมเพิ่มเติม ครอบคลุมด้านสุขภาพ จิตใจ ครอบครัว และการเงิน เพื่อเติมเต็มระบบสวัสดิการภาครัฐ และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นขององค์กรในการดูแลบุคลากรอย่างรอบด้าน

5. มุ่งมั่นสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพนักงานในองค์กร โดยจัดให้มีสิทธิลาพักผ่อนประจำปีโดยได้รับค่าจ้างตามที่กฎหมายแรงงาน

BDMS ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work–Life Balance) โดยตระหนักว่าการพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสุขภาพกายและจิตใจของพนักงาน บริษัทฯ จึงส่งเสริมให้พนักงานใช้สิทธิลาพักร้อนประจำปีที่ได้รับค่าจ้างอย่างเหมาะสมและครบถ้วน เพื่อฟื้นฟูพลังในการทำงาน สนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดี และเสริมสร้างความผูกพันกับองค์กรในระยะยาว

บริษัทฯ สนับสนุนแนวทางการส่งเสริมความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work–Life Balance) BDMS ได้ดำเนินโครงการสื่อสารเชิงรุก โดยมีการแจ้งเตือนพนักงานเป็นรายไตรมาสให้ใช้สิทธิลาพักร้อนประจำปีตามสิทธิที่พึงได้รับ เพื่อส่งเสริมให้พนักงานได้พักผ่อนอย่างเหมาะสม ช่องทางการสื่อสารครอบคลุมทั้งการแจ้งเตือนผ่านระบบอีเมล ดำเนินการประชาสัมพันธ์สื่อสารในพื้นที่ส่วนกลาง และการประกาศในที่ประชุมทีมงานประจำหน่วยงาน เพื่อให้การสื่อสารทั่วถึงและเกิดผลในการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

บริษัทฯ มีนโยบายที่ชัดเจนและเคร่งครัดในการไม่อนุญาตให้มีการสะสมวันลาพักร้อนข้ามปีปฏิทิน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้พนักงานใช้สิทธิลาพักร้อนภายในระยะเวลาที่เหมาะสม มาตรการดังกล่าวมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีโดยรวมของพนักงาน ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ สามารถเพิ่มความสุขในการทำงาน และยกระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานอย่างยั่งยืน นโยบายนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ BDMS ในการส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work–Life Balance) ตลอดจนแสดงถึงความใส่ใจของบริษัทในการดูแลคุณภาพชีวิตของพนักงานในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรม

การพัฒนาศักยภาพบุคลากร

การพัฒนาศักยภาพบุคลากรถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของ BDMS เพื่อบรรลุเป้าหมายในการมอบบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ BDMS จึงได้กำหนดนโยบายด้านการพัฒนาและฝึกอบรมพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และสมรรถนะให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและแนวโน้มของอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมและการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร

บริษัทส่งเสริมการเรียนรู้เทคนิคและแนวทางปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานในแต่ละสายอาชีพ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถพัฒนาเส้นทางอาชีพของตนเองได้อย่างก้าวหน้า อีกทั้งยังสนับสนุนทักษะด้านความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง และสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เกื้อหนุนต่อความสำเร็จของทั้งพนักงานและองค์กรในระยะยาว

การพัฒนาและการฝึกอบรมบุคลากร

BDMS จัดทำนโยบายด้านการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร ทั้งในสายวิชาชีพ (Clinical) และสายสนับสนุน (Non-Clinical) ครอบคลุมถึงพนักงานที่เพิ่งเข้าทำงาน พนักงานสัญญาจ้าง และพนักงานชั่วคราว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจในทิศทางขององค์กร ระบบคุณภาพของโรงพยาบาล ตลอดจนเสริมสร้างความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล

ทั้งนี้ การฝึกอบรมและพัฒนาจะได้รับการปรับให้เหมาะสมกับค่านิยมและกลยุทธ์ขององค์กร พร้อมส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะใหม่ ความรู้ และความเชี่ยวชาญที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อบุคลากรทางการแพทย์และพนักงานทุกกลุ่ม

กลยุทธ์การพัฒนาศักยภาพบุคลากร

BDMS กำหนดกลยุทธ์ในกลยุทธ์การพัฒนาศักยภาพบุคคลโดยยึดหลักการ 3 ประการ ได้แก่

1. การพัฒนาทรัพยากรบุคคล แบบองค์รวมรอบด้าน (Human Holistic Development)

พัฒนาบุคลากรให้มีทักษะที่จำเป็นเพิ่มเติม รวมไปถึงการเรียนรู้เทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อความก้าวหน้าของบุคลากรตามสายงานและเพื่อส่งเสริมความพร้อมในการปฏิบัติงานให้ได้อย่างมีประสิทธภาพ

2. การพัฒนาศักยภาพบุคลากรแบบเชิงรุก

การจัดทำแผนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรผ่านการบูรณาการข้อมูลจากความต้องการตามช่วงวัยของบุคลากร และแผนการส่งเสริมความก้าวหน้าตามสายงาน อาชีพ เพื่อยกระดับการเตรียมความพร้อม ทั้งฝ่ายปฏิบัติการและฝ่ายบริหาร ส่งเสริมการปฏิบัติงานที่ต่อเนื่อง และความยืดหยุ่นในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพในอนาคตที่มีความผันผวน

3. การบ่มเพาะสร้างความผูกพันผ่านวัฒนธรรมองค์กร

การคัดสรรและดูแลบุคลากรใหม่อย่างมีประสิทธภาพ กระตุ้นเสริมสร้างความเข้าใจ และการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร 

ผ่านการส่งเสริมวัฒนธรรมและค่านิยมขององค์กร รวมถึงการส่งเสริมกิจกรรมการมีส่วนร่วมระหว่างฝ่ายปฎิบัติการและฝ่ายบริหาร เพื่อให้เกิดการเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน ตามค่านิยมองค์กร

 

การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงานของ BDMS

การปฐมนิเทศพนักงานใหม่ (General Orientation)

เพื่อรับทราบข้อมูลวัฒนธรรมองค์กร ทิศทาง วิสัยทัศน์และพันธกิจ ค่านิยมองค์กร มาตรฐานการบริการ กฎระเบียบ หลักการบริการ ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และระบบคุณภาพของโรงพยาบาลฃ

การปฐมนิเทศพนักงานใหม่ในหน่วยงาน (Unit Orientation)

เพื่อรับทราบ พันธกิจ กลยุทธ์ของของหน่วยงาน ขอบเขตการให้บริการ (Scope of Service) นโยบายและแนวทางในการปฏิบัติงาน ที่สอดคล้องกับยุทธศาตร์ขององค์กร

การฝึกอบรมภาคบังคับ (Mandatory Training)

ครอบคลุมกลยุทธ์และทิศทางขององค์กร จรรยาบรรณองค์กรและการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน ระบบคุณภาพและการพัฒนาคุณภาพ การป้องกันความเสี่ยงระดับองค์กร การดับเพลิงขั้นพื้นฐาน การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และหลักสูตรที่เกี่ยวข้องสำหรับพนักงานวิชาชีพ รวมถึงความรู้ด้านกฎหมายและข้อบังคับที่สำคัญ

การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาคุณภาพ (Quality Improvement Training)

เพื่อป้องกันอุบัติการณ์ ตามข้อมูลการติดตามอุบัติการณ์ด้านคุณภาพและความปลอดภัย การร้องเรียนของผู้ป่วย และการเปลี่ยนกระบวนการทำงานหรือเทคโนโลยีใหม่ รวมทั้งความสามารถด้านการใช้งานภาษาอังกฤษ  จัดการฝึกอบรม และการทดสอบทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติความรู้ในการปฏิบัติงานเพื่อการดูแลผู้ป่วยในแต่ละระดับและตำแหน่งงาน เพื่อพนักงานสามารถเติบโตก้าวหน้าได้ในสายงานและให้บริการการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

การฝึกอบรมด้านความรู้และทักษะการเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน (ESG Training and Upskill)

เพื่อให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และ ธรรมาภิบาล (Governance) 

โครงการที่เกี่ยวข้อง (Related Training)

เช่น การจัดประชุมวิชาการ และการให้ทุนการศึกษากับพนักงานเพื่อขยายความรู้และความสามารถในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและหน่วยงาน รวมทั้งความสามารถในการดูแลผู้ป่วยในเพื่อสร้างคุณค่าให้ผู้ป่วย

นอกเหนือจากการตอบสนองต่อคุณสมบัติพื้นฐานของแต่ละตำแหน่งงานแล้ว BDMS ยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในวัฒนธรรมองค์กร วิสัยทัศน์ พันธกิจ และกลยุทธ์ขององค์กรแก่พนักงาน
โดยมุ่งหวังให้บุคลากรทุกระดับมีความเข้าใจในทิศทางขององค์กรอย่างแท้จริง และสามารถมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเป้าหมายร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสนับสนุนให้พนักงานมีความสามารถในการปรับตัวต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสามารถดำเนินงานได้อย่างคล่องตัวภายใต้บริบทของสภาพแวดล้อมการทำงานที่พัฒนาอยู่เสมอ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาทุนมนุษย์ในระยะยาว และการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร

การลงทุนด้านทุนมนุษย์ของ BDMS ดำเนินไปอย่างเป็นระบบ พร้อมการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการพัฒนาและยกระดับศักยภาพของบุคลากรสามารถสร้างคุณค่าได้อย่างแท้จริง ทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กร การวัดผลดังกล่าวครอบคลุมทั้งด้านทักษะ ความสามารถ การเติบโตในสายอาชีพ และผลกระทบเชิงบวกต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาทุนมนุษย์อย่างยั่งยืน และสอดคล้องกับเป้าหมายกลยุทธ์ขององค์กรในระยะยาว

BDMS สนับสนุนการพัฒนาบุคลากรผ่านการเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เช่น การโค้ช การให้คำปรึกษา (Mentorship) รวมถึงการมีส่วนร่วมในทีมและเครือข่ายต่าง ๆ เช่น กลุ่มทรัพยากรพนักงาน (Employee Resource Groups) ซึ่งช่วยส่งเสริมขีดความสามารถรายบุคคลและโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพ

ประเภทของโครงการพัฒนาบุคลากรที่จัดขึ้น แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่:

1. การพัฒนาภาวะผู้นำ (Leadership Development)

2. การเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร (Cultural Education)

3. โครงการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่เกษียณหรือลาออกจากงาน (Transition Program for Retiring and Terminated Employees)

4. โครงการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transition Program)

1.  โครงการพัฒนาภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหาร BDMS ประจำปี 2568

รูปแบบการเรียนรู้

หลักสูตรการฝึกอบรมของบริษัทได้รับการออกแบบโดยผสานระหว่างการเรียนรู้เชิงวิชาการกับกิจกรรมปฏิบัติจริง เพื่อเสริมสร้างทักษะและประสบการณ์อย่างรอบด้าน โดยมีการนำแนวทางการโค้ช (Coaching) มาใช้เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาในการทำงานด้วยตนเอง การให้คำปรึกษา (Mentoring) เพื่อถ่ายทอดความรู้จากผู้มีประสบการณ์ และการเรียนรู้แบบกลุ่ม (Team-based Learning) เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันและพัฒนาทักษะในกลุ่มพนักงานที่หลากหลาย

กลุ่มผู้เข้าร่วม / กลุ่มเป้าหมาย

หลักสูตรการฝึกอบรมจัดขึ้นสำหรับผู้จัดการแผนกและผู้บริหารของ BDMS โดยมีผู้เข้าร่วมรุ่นละ 60 คน รวมทั้งสิ้น 120 คน

รายละเอียดของโครงการ

รายละเอียดโครงการ: BDMS Managerial Leadership Program 2025

โครงการพัฒนาภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหาร BDMS ประจำปี 2568” เป็นหนึ่งในโครงการเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งส่งเสริมศักยภาพผู้นำองค์กร โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและเตรียมความพร้อมให้กับผู้บริหารระดับกลางในปัจจุบัน รวมถึงผู้มีศักยภาพที่จะก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำในอนาคต เพื่อให้สามารถปรับตัวและรับมือกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และพลวัตของตลาด ทั้งนี้โครงการดังกล่าวยังสะท้อนถึงพันธกิจของ BDMS ในการส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์อย่างยั่งยืน อันเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตในระยะยาวขององค์กร

BDMS ตระหนักว่าภาวะผู้นำที่มีประสิทธิภาพ เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องและการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ขององค์กรในระยะยาว องค์กรจึงมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถด้านภาวะผู้นำในทุกระดับอย่างครอบคลุมและเป็นระบบ เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมของผู้นำที่สามารถตอบสนองต่อความท้าทายของโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

โครงการออกแบบขึ้นเพื่อตอบรับต่อการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างประชากรภายในองค์กร ซึ่งขณะนี้ BDMS มีพนักงานกลุ่มหลักอยู่ในช่วงวัย Generation Y (อายุระหว่าง 29–45 ปี) โดยพนักงานกลุ่มนี้กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่บทบาทผู้นำระดับบริหาร และจะเข้ามามีบทบาทในการสืบทอดตำแหน่งจากผู้นำรุ่น Generation X องค์กรจึงให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพและเตรียมความพร้อมให้กับผู้นำรุ่นใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืน

เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านผู้นำดังกล่าว โครงการจึงเน้นการพัฒนา Future Skills ได้แก่:

  • ภาวะผู้นำในยุคดิจิทัล (Digital Leadership)
  • การบริหารนวัตกรรม (Innovation Management)
  • การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างหลักการพื้นฐานของการบริหารธุรกิจ

หลักสูตรแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มเฉพาะทาง ได้แก่: สำหรับผู้จัดการฝ่าย (Division Managers): เน้นการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ และการวางแผนระดับองค์กร และสำหรับหัวหน้าแผนก (Department Heads): มุ่งเน้นการบริหารงานในระดับปฏิบัติการและการจัดการทรัพยากรบุคคล โดยมีเป้าหมายของโครงการคือเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะสำคัญให้แก่ผู้นำ อาทิเช่น

  1. การคิดเชิงกลยุทธ์
  2. การตัดสินใจ
  3. ทักษะการสื่อสาร
  4. ความฉลาดทางอารมณ์ 

เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการเป็นผู้นำองค์กรอย่างมีวิสัยทัศน์ พร้อมทั้งสามารถปรับตัวได้อย่างยืดหยุ่นในหลากหลายบริบท โครงการนี้ได้ดำเนินการร่วมกับศูนย์บริการวิชาการ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเน้นการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ภายใต้บริบทเฉพาะของอุตสาหกรรมบริการสุขภาพ ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินผลสัมฤทธิ์ขั้นต่ำในระดับความรู้ที่ร้อยละ 70 และต้องมีอัตราการเข้าอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 จึงจะได้รับใบรับรองการเข้าร่วมโครงการอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องลงนามใน ‘ข้อตกลงการเรียนรู้’ (Learning Contract) เพื่อแสดงเจตจำนงในการนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน พร้อมทั้งปฏิบัติงานในองค์กรอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1.5 ปีหลังจากสำเร็จหลักสูตร ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้การลงทุนด้านการพัฒนาทุนมนุษย์ขององค์กรเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน และสอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ของ BDMS

ผลลัพท์ที่เกิดขึ้นจากโครงการ

BDMS เริ่มดำเนินโครงการในปี พ.ศ. 2557 โดยดำเนินการฝึกอบรมผู้เข้าร่วมโครงการแล้วทั้งสิ้นจำนวน 1,076 คน ครอบคลุมบพนักงานในระดับผู้นำจากทั่วทั้งเครือข่ายขององค์กร โดยแบ่งเป็นผู้จัดการฝ่าย (Division Managers) จำนวน 451 คน และหัวหน้าแผนก (Department Heads) จำนวน 625 คน 

ในปี พ.ศ. 2568 โครงการฝึกอบรมภาวะผู้นำยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีอัตราการเข้าร่วมทั้งกลุ่มผู้จัดการฝ่าย (Division Managers) ร้อยละ 88 และกลุ่มหัวหน้าแผนก (Department Heads) ร้อยละ 89 ทั้งนี้ จากการติดตามผลพบว่า กลุ่มหัวหน้าแผนกมีอัตราการเลื่อนตำแหน่งสูงกว่ากลุ่มผู้จัดการ โดยอยู่ที่ร้อยละ 16 และ ร้อยละ12 ตามลำดับ

ปัจจุบัน BDMS อยู่ระหว่างกระบวนการยื่นขอการรับรองมาตรฐานหลักสูตรจากสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สป.อว.) เพื่อยกระดับคุณภาพของหลักสูตรฝึกอบรมให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานระดับประเทศ ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ ความต่อเนื่องในการพัฒนาศักยภาพผู้นำ และรองรับการพัฒนาทุนมนุษย์อย่างยั่งยืนในระยะยาว

 

2. โครงการเสริมสร้างความเข้าใจด้านวัฒนธรรม: ภาษาอาหรับและภาษาจีนเบื้องต้นสำหรับพนักงานที่ทำงานในตำแหน่งที่ต้องมีการติดต่อกับลูกค้าโดยตรงหรือมีส่วนร่วมในการให้บริการที่จำเป็นต่อการดำเนินงานขององค์กร

รูปแบบการเรียนรู้

หลักสูตรการฝึกอบรมได้รับการออกแบบให้มีความหลากหลายและเหมาะสมกับบริบทของพนักงานที่ทำงานในตำแหน่งที่ต้องมีการติดต่อกับลูกค้าโดยตรง หรือมีส่วนร่วมในการให้บริการที่จำเป็นต่อการดำเนินงานขององค์กร โดยผสานแนวทางการเรียนรู้ที่เน้นการลงมือปฏิบัติจริงเข้ากับการพัฒนาเชิงประสบการณ์ ผ่านการบูรณาการระหว่างการให้คำปรึกษาโดยพี่เลี้ยง (Mentoring) การเรียนรู้แบบทีม (Team-based Learning) และกิจกรรมสร้างเครือข่าย (Networking Activities) ซึ่งดำเนินการทั้งในรูปแบบการเรียนออนไลน์และกิจกรรม Language Camp โดยมุ่งเน้นให้ผู้เข้าอบรมสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของผู้เชี่ยวชาญในองค์กร พัฒนาทักษะการสื่อสาร และเสริมสร้างความเข้าใจเชิงวัฒนธรรม รวมถึงส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

กลุ่มผู้เข้าร่วม / กลุ่มเป้าหมาย

หลักสูตรการฝึกอบรมจัดขึ้นสำหรับพนักงานที่ทำงานในตำแหน่งที่ต้องมีการติดต่อกับลูกค้าโดยตรง หรือมีส่วนร่วมในการให้บริการที่จำเป็นต่อการดำเนินงานขององค์กร ซึ่งรวมถึงพยาบาลวิชาชีพ เจ้าหน้าที่บริการผู้ป่วยต่างชาติ เภสัชกร และนักกายภาพบำบัด ครอบคลุมทั้งพนักงานประจำ พนักงานสัญญาจ้าง และพนักงานสัญญาจ้างในกลุ่มบริษัทในเครือ BDMS

รายละเอียดของโครงการ

เนื่องด้วยจำนวนผู้รับบริการจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ BDMS มีการขยายตลาดเชิงกลยุทธ์ไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอาหรับและภาษาจีนจึงกลายเป็นทักษะที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มพนักงานที่ต้องมีการติดต่อกับลูกค้าโดยตรง หรือมีส่วนร่วมในการให้บริการที่จำเป็นต่อการดำเนินงานขององค์กร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ ส่วนแรกในการสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ป่วย ความเชี่ยวชาญด้านภาษาเหล่านี้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศและตอบสนองต่อความต้องการของผู้รับบริการชาวต่างชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ BDMS ในการเป็นผู้นำด้านบริการสุขภาพระดับสากล

BDMS จึงกำหนดให้การเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอาหรับและภาษาจีนเบื้องต้น เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ “โครงการพัฒนาทักษะด้านภาษาที่สาม” จึงได้รับการออกแบบขึ้นโดยเฉพาะสำหรับพนักงานโรงพยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการแก่ลูกค้าชาวตะวันออกกลางและจีนในปัจจุบัน พร้อมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับหน่วยงานอื่น ๆ ในเครือ BDMS ที่จะมีบทบาทในการรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าต่างชาติดังกล่าวในอนาคต

หลักสูตรการอบรมดำเนินการในรูปแบบผสมผสาน (Blended Learning) โดยผสานการเรียนรู้ผ่านห้องเรียนเสมือน (Virtual Classroom) เข้ากับการอบรมแบบพบหน้า (In-person Sessions)  นอกจากนี้ หลักสูตรยังรวมถึงกิจกรรม ‘Arabic Language Camp’ ซึ่งจัดขึ้นในรูปแบบเข้าค่าย 2 วัน 1 คืน สถานที่ ณ BDMS Movenpick Wellness Resort  โดยการบูรณาการระหว่างการเรียนรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างสมรรถนะของพนักงานที่ต้องมีการติดต่อกับลูกค้าโดยตรง ให้สามารถปฏิสัมพันธ์กับผู้รับบริการที่มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่หลากหลายได้อย่างเหมาะสม ด้วยความเข้าใจ ความเคารพ และความไวต่อบริบททางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่นำไปสู่การยกระดับคุณภาพการให้บริการในระดับสากล และการสร้างความไว้วางใจในระยะยาวจากลูกค้าต่างชาติ

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมอบรมยังได้เรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวตะวันออกกลางและจีน ทั้งด้านพฤติกรรมที่เหมาะสมและข้อควรระวังในการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าจากภูมิภาคดังกล่าว แนวทางแบบองค์รวมนี้สนับสนุนการพัฒนามาตรฐานการให้บริการของ BDMS อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการดูแลผู้ป่วยชาวต่างชาติ

ในปี พ.ศ. 2567 โรงพยาบาลในกลุ่ม Center of Excellence (COE) ทุกแห่งของ BDMS ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดอบรมหลักสูตร “การสื่อสารภาษาจีนและ/หรือภาษาอาหรับ” ในระดับที่ 1 และระดับที่ 2 โดยมีเป้าหมายในการฝึกอบรมพนักงานที่ทำงานในตำแหน่งที่ต้องมีการติดต่อกับลูกค้าโดยตรง หรือมีส่วนร่วมในการให้บริการที่จำเป็นต่อการดำเนินงานขององค์กร ให้ครอบคลุมอย่างน้อยร้อยละ 20 ของจำนวนบุคลากรในแต่ละโรงพยาบาลภายในสิ้นปี

ผลลัพท์ที่เกิดขึ้นจากโครงการ

ภายใต้กรอบการดำเนินงานของโครงการพัฒนาทักษะด้านภาษาและวัฒนธรรม โรงพยาบาลในกลุ่ม Center of Excellence (COE) แต่ละแห่งจะได้รับมอบหมายให้จัดอบรมหลักสูตร ‘การสื่อสารภาษาจีนและ/หรือภาษาอาหรับ’ ระดับที่ 1 และระดับที่ 2 ภายในปี พ.ศ. 2567 โดยมีเป้าหมายในการฝึกอบรมพนักงานที่ทำงานในตำแหน่งที่ต้องมีการติดต่อกับลูกค้าโดยตรง หรือมีส่วนร่วมในการให้บริการที่จำเป็นต่อการดำเนินงานขององค์กร คิดเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในแต่ละโรงพยาบาลภายในสิ้นปี ทั้งนี้เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มการเติบโตของลูกค้าต่างชาติ และเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรในการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพและเข้าใจบริบททางวัฒนธรรม โครงการเสริมสร้างทักษะด้านภาษาและความเข้าใจทางวัฒนธรรมของ BDMS ไม่เพียงมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการสื่อสารในภาษาต่างประเทศเท่านั้น หากแต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้าง ความตระหนักรู้ทางวัฒนธรรม (Cultural Awareness) และ ความเคารพต่อความหลากหลายทางวัฒนธรรม (Cultural Respect) ในกลุ่มพนักงานของโรงพยาบาล เพิ่มคุณภาพการให้บริการผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในเรื่องความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) , ความถูกต้องแม่นยำ (Accuracy) และเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม (Cultural Sensitivity) อย่างลึกซึ้ง

ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับประสบการณ์การดูแลที่มีคุณภาพ โครงการนี้ยังแสดงให้เห็นผลกระทบทางธุรกิจในเชิงปริมาณอย่างชัดเจน โดยโรงพยาบาลในเครือที่อยู่ภายใต้ Centers of Excellence มีรายได้เฉลี่ยในปี 2567 เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับความเชื่อมั่นและความพึงพอใจที่เพิ่มขึ้นจากผู้ป่วยชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ภาษาจีนและภาษาอาหรับ ในการใช้บริการในเครือ BDMS อย่างต่อเนื่อง

โดยปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การเติบโตนี้ ได้แก่:

  • การให้บริการที่สื่อสารได้อย่างชัดเจนในภาษาของผู้ป่วย
  • การแสดงออกถึงความเข้าใจในบริบททางวัฒนธรรม
  • และการสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นใจและไว้ใจระหว่างผู้ป่วยกับผู้ให้บริการ

โครงการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการผสานทักษะ “ภาษากับวัฒนธรรม” เพื่อสร้าง ความได้เปรียบทางการแข่งขัน และผลักดัน BDMS สู่การเป็นผู้นำด้านบริการสุขภาพที่เข้าใจและเข้าถึงผู้ป่วยจากทุกมุมโลกอย่างแท้จริง

 

3. โครงการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่เกษียณอายุ: ความรู้ด้านการเงินเพื่อการเกษียณอายุ

รูปแบบการเรียนรู้

โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการวางแผนทางการเงิน โดยบริษัทฯ ทำความร่วมมือกับธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMB) ซึ่งดำเนินการให้คำปรึกษา (Mentoring) และการโค้ช (Coaching) แบบรายบุคคล เพื่อสนับสนุนพนักงานในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านในเส้นทางอาชีพ ทั้งในแง่การบริหารจัดการทางการเงินส่วนบุคคล และการตัดสินใจด้านอาชีพในระยะยาว

นอกจากนี้ โครงการยังให้การสนับสนุนเพิ่มเติมผ่านการให้คำปรึกษาเชิงลึก เพื่อช่วยผู้เข้าร่วมรับมือกับความท้าทายทั้งในด้านจิตใจและด้านการปฏิบัติจริง พร้อมจัดการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะใหม่ (Reskilling) ที่สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดแรงงานในอนาคต รวมถึงการให้บริการจัดหางาน (Job Placement Service) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าถึงตำแหน่งงานใหม่ และวางแผนเส้นทางอาชีพอย่างยั่งยืน

ในขณะเดียวกัน BDMS ได้จัดตั้งทีมสนับสนุนและเครือข่ายการเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน (Peer Learning Network) ขึ้น เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้เข้าร่วมโครงการ สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ร่วมกัน และเสริมสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน

กลุ่มผู้เข้าร่วม / กลุ่มเป้าหมาย

โครงการนี้มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นพนักงานที่ใกล้เข้าสู่วัยเกษียณ รวมถึงผู้ที่มีความสนใจในการพัฒนาทักษะด้านการวางแผนทางการเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การสนับสนุนที่เหมาะสม สอดคล้องกับบริบทชีวิตและความต้องการเฉพาะบุคคล ทั้งในมิติของการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านในเส้นทางอาชีพ และการวางแผนชีวิตอย่างมั่นคงภายหลังพ้นสภาพการจ้างงาน

รายละเอียดของโครงการ

BDMS โครงการที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้บุคคลหรือองค์กรสามารถเปลี่ยนผ่านจากสถานะหนึ่งไปสู่อีกสถานะหนึ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Comprehensive Transition Program) เพื่อสนับสนุนพนักงานที่ใกล้เกษียณอายุ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้พนักงานสามารถเปลี่ยนผ่านในสายอาชีพ และยังคงมีความพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต

โครงการนี้ยังรวมถึงโอกาสในการฝึกอบรมสำหรับพนักงานที่ต้องการทำงานต่อหลังจากเกษียณ  สิทธิประโยชน์กรณีเลิกจ้างที่พิจารณาจากปัจจัยด้านอายุและอายุงานของพนักงาน บริการจัดหางาน รวมถึงการสนับสนุนด้านการให้คำปรึกษาและการฝึกอบรม เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถปรับตัวเข้าสู่ชีวิตหลังการทำงานได้อย่างราบรื่น  รวมไปถึงส่งผลให้ผลสำรวจความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร เท่ากับ ร้อยละ 83.30 บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ ร้อยละ 80

ผลลัพท์ที่เกิดขึ้นจากโครงการ

โครงการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่ใกล้เกษียณอายุ (Transition Program) มีส่วนช่วยให้พนักงานมีความพร้อมด้านการเงินและเพิ่มความมั่นใจในช่วงเปลี่ยนผ่าน ผ่านกระบวนการวางแผนรายบุคคลอย่างเหมาะสม ในขณะเดียวกัน กิจกรรมฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างทักษะใหม่ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการจ้างงาน สำหรับพนักงานที่ประสงค์จะประกอบอาชีพต่อหลังพ้นสภาพการจ้าง

โดยบริการจัดหางานเฉพาะทางมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้พนักงานที่พ้นสภาพการจ้างสามารถกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกัน การให้คำปรึกษา (Counseling) ร่วมกับการมีพี่เลี้ยง (Mentor) คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ช่วยลดความเครียด และเอื้อให้การเปลี่ยนผ่านในเส้นทางอาชีพเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมในทีมงานและเครือข่ายภายในองค์กร ยังเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และการสนับสนุนซึ่งกันและกันระหว่างเพื่อนร่วมงาน ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์การเปลี่ยนผ่านที่มีคุณค่าเชิงบวก และเอื้อประโยชน์ร่วมกัน

 

4. โปรแกรมเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล: โปรแกรมฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI)

รูปแบบการเรียนรู้

หลักสูตรการฝึกอบรมมุ่งเน้นการโค้ชและการให้คำปรึกษาอย่างตรงจุด เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการยกระดับกระบวนการตัดสินใจและขับเคลื่อนนวัตกรรม นอกจากนี้ การเรียนรู้ยังได้รับการต่อยอดผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างทีมข้ามสายงานและเครือข่าย โดยมีเป้าหมายในการบูรณาการ AI เข้ากับการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพองค์กรและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในระยะยาว

กลุ่มผู้เข้าร่วม / กลุ่มเป้าหมาย

 “โครงการการฝึกอบรม “โครงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล: ฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI)” มีเป้าหมายเพื่อเสริมทักษะให้กับพนักงานทุกระดับของ BDMS ผ่านการอบรมรูปแบบ Onsite โดยแต่ละรุ่นมีผู้เข้าร่วมประมาณ 100 คน เพื่อสร้างความเข้าใจและการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริง

รายละเอียดของโครงการ

BDMS ได้จัดหลักสูตร “โครงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล: ฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI)” สำหรับพนักงานทุกระดับในรูปแบบ Hybrid โดยพนักงานเข้าร่วมอบรมตามเป้าหมาย ร้อยละ 100 เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการบริหารยุคใหม่ โดยเน้นการประยุกต์ใช้ในการทำงานจริง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาในการดำเนินงาน ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กรในปี 2568 และBDMS ยังคงมุ่งมั่นดำเนินโครงการฝึกอบรมฝึกอบรมด้านปัญญาประดิษฐ์อย่างต่อเนื่อง โดยเนื้อหาครอบคลุมหัวข้อสำคัญ ได้แก่ การพัฒนานวัตกรรมผ่านการบริหารจัดการปัญญาประดิษฐ์และข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ข้อมูลเป็นเครื่องมือในการเพิ่มศักยภาพ การประยุกต์ใช้การบริหารจัดการปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างนวัตกรรม และการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนแนวคิดใหม่และเพิ่มขีดความสามารถขององค์กร

ผลลัพท์ที่เกิดขึ้นจากโครงการ

โครงการอบรมด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะผู้นำที่มุ่งเน้นนวัตกรรม พร้อมทั้งส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมสามารถมองหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรในยุคดิจิทัล รวมไปถึงโครงการฝึกอบรมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) นั้น ได้สนับสนุนโดยตรงต่อกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของ BDMS ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของปี 2567 และยังส่งผลกระทบเชิงธุรกิจที่ชัดเจนในเชิงปริมาณ โดยการส่งเสริมให้พนักงานสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการปฏิบัติงานประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการนี้ได้ก่อให้เกิดการปรับปรุงที่วัดผลได้ในด้านประสิทธิภาพการทำงาน ลดระยะเวลารอคอยของผู้ป่วย และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานโดยรวม ผลลัพธ์เหล่านี้มีส่วนช่วยให้ BDMS มีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อเนื่องที่ร้อยละ 9 เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน (ปีพ.ศ. 2565 – 2567)

นอกเหนือจากการยกระดับคุณภาพการดูแลรักษาแล้ว การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและระบบดิจิทัล โดยเฉพาะแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังช่วยให้ BDMS สามารถลดข้อผิดพลาดในการให้บริการ เพิ่มความรวดเร็วในการดำเนินงาน และ นำไปสู่การประหยัดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ ตลอดจนการจัดสรรทรัพยากรในเครือโรงพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นกลยุทธ์สำคัญในการลดภาระงานที่เป็นงานซ้ำหรืองานสนับสนุน เพื่อให้บุคลากรสามารถมุ่งเน้นการทำงานในบทบาทที่สร้างคุณค่าหลักและขับเคลื่อนเป้าหมายขององค์กรได้อย่างเต็มที่ ซึ่งผลลัพธ์ที่เด่นชัดคือ ในปี พ.ศ. 2567 BDMS สามารถบรรลุคะแนนความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction Score) ที่ร้อยละ 94.94 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 88% อย่างมีนัยสำคัญ ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึง:

  • ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยต่อ ประสิทธิภาพ และ คุณภาพ ของบริการ
  • การพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการใช้ เทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้รับบริการ
  • ความมุ่งมั่นของ BDMS ในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ ระบบบริการสุขภาพที่เป็นเลิศและยั่งยืน

การรักษาทรัพยากรบุคคลผ่านการสร้างแรงจูงใจ

ด้วย บุคลากร คือ กลไลสำคัญในการพัฒนาความสำเร็น และนำไปสู่การสร้างองค์กรยั่งยืน BDMS ตระหนักถึงการบริหารจัดการบุคลากร การดูแลสวัสดิการ และการพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงาน ร่วมถึงการสนับสนุนทักษะความสามารถเพื่อสร้างความก้าวหน้าในอาชีพการงาน เพื่อการส่งเสริมการมีส่วนร่วม และการรักษาทรัพยากรบุคคลภายในองค์กร  BDMS จึงมีแนวนโยบายและกระบวนการดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างคงวามผูกพันในกลุ่มบุคลากรภายในองค์กร  โดยการส่งเสริมการขับเคลื่อนวัฒนธรรมแบบองค์รวม การออกแบบและวางระบบบริหารค่าตอบแทนที่เป็นธรรม พร้อมทั้งพัฒนาการบริหารผลการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ ที่มีหลักเกณฑ์ชัดเจน ดูแลผลประโยชน์ของพนักงานให้เหมาะสม เท่าเทียม และยุติธรรม รวมไปถึงการวางกลยุทธ์ในการรักษาพนักงานที่มีศักยภาพสูงในองค์กร ทั้งนี้วางแผนการบริหารผู้สืบสอดตำแหน่งเชิงรุก ตลอดจนมุ่งมั่นดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ครอบครัวพนักงาน เพื่อผลักดันการสร้างคุณค่าขององค์กร ในการดูแลพนักงานให้มีประสบการณ์ที่ดีทั้งทางกายและใจ เสริมสร้างความผูกพันกับ BDMS อย่างยั่งยืน

โครงการการบริหารจัดการคนเก่ง 

BDMS ตระหนักถึงการบริหารจัดการบุคลากรที่มีความสามารถโดดเด่นและเล็งเห็นถึงการให้ความสำคัญต่อกลุ่มคนที่มีส่วนสำคัญในการสร้างผลงานที่ดีและสร้างเสริมความก้าวหน้าให้แก่องค์กร จึงดำเนินการโครงการการบริหารจัดการผู้มีความสามารถคนเก่งในองค์กร (Talent Management Program) โดยการคัดเลือก ติดตามการประเมิน และพัฒนาพนักงานผู้ที่มีศักยภาพขององค์การอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความพร้อมให้เป็นผู้นำและการมอบหมายให้รับผิดชอบภารกิจสำคัญขององค์กร เป็นการสร้างผลงานที่ดีและเสริมสร้างความก้าวหน้าของพนักงานและต่อองค์กร เตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

โครงการนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก ดังต่อไปนี้:

การบริหารจัดการเพื่อรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพ

ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ในการสรรหาและประเมินสมรรถนะของผู้สมัครตามเกณฑ์ที่กำหนด ก่อนส่งผลการประเมินให้กับฝ่ายทรัพยากรบุคคลเพื่อสรุปคะแนนและนำเสนอแก่ผู้บริหารระดับสูงต่อไป

การพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพ

1. การโค้ชแผนพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan Coaching)

ดำเนินการประเมินผลแบบ 360 องศา (360° Feedback) เพื่อระบุจุดแข็งและจุดที่ควรพัฒนาในระดับรายบุคคล โดยผลการประเมินจะถูกนำไปใช้ในการจัดทำแผนพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan: IDP) ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพและเป้าหมายของแต่ละบุคคล

2. การบริหารโครงการ (Project Management)

มอบหมายภารกิจให้กับทีมบุคลากรที่มีศักยภาพ เพื่อดำเนินงานภายใต้กรอบระยะเวลาและข้อจำกัดที่กำหนด โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลลัพธ์หรือทางเลือกที่เป็นไปได้ พร้อมทั้งเสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นทีม (Team Collaboration) และความสามารถในการบริหารจัดการโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการบริหารจัดการบุคลากรศักยภาพสูง (Talent Management Program)

  • การสรรหาและการรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนในระยะยาว
  • การสืบทอดวัฒนธรรมและค่านิยมขององค์กร ถ่ายทอดจากผู้นำระดับสูงไปยังผู้บริหารระดับถัดไปอย่างต่อเนื่อง
  • การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างจำกัดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างคุณค่าสูงสุดให้แก่องค์กร

แผนการสืบทอดตำแหน่งงาน (Succession Plan)

BDMS ได้คัดเลือกและพัฒนาพนักงานที่มีศักยภาพให้มีความพร้อมที่จะเติบโตในตำแหน่งงานที่องค์กรต้องการ โดยผู้บังคับบัญชาทำหน้าที่เป็นผู้ประเมินศักยภาพ วางแผนพัฒนาขีดความสามารถ และติดตามประเมินผล พร้อมทั้งมีระยะเวลาในการทบทวนและสรรหาผู้สืบทอดตำแหน่งในทุก ๆ ปี เพื่อให้มีความพร้อมในการเป็นผู้ส่งมอบตำแหน่งในกรณีที่มีการเกษียณอายุของผู้บริหาร การขยายงาน หรือการลาออก โดยกำหนดแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถเป็นรายบุคคล

  • การประเมินและวางแผนสมรรถนะของผู้สืบทอดตำแหน่งแต่ละราย
  • การฝึกอบรมด้านภาวะผู้นำ
  • การหมุนเวียนงาน (Job Rotation)
  • การมอบหมายภารกิจพิเศษ
  • การเยี่ยมชมสถานที่ปฏิบัติงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การวางแผนสมรรถนะสำหรับพนักงานทุกระดับ

 

สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ครอบครัวพนักงาน

BDMS มุ่งมั่นดำเนินการขับเคลื่อนวัฒนธรรมที่มีความหลากหลาย ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกันในองค์กร ยึดหลักการส่งเสริมความเท่าเทียมในทุกด้านของการดำเนินธุรกิจ ยึดเป็นกรอบการออกแบบสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและครอบครัวพนักงาน BDMS ทั้งในด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจและด้านการเงิน เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและความสุขในการทำงาน รวมไปถึงมอบสวัสดิการต่างๆ ให้แก่พนักงาน เช่น การฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกัน รวมถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 และการออกกำลังกาย ตลอดจนส่งเสริมสมดุลชีวิตของพนักงาน เอื้อให้บุคลากรนำศักยภาพสูงสุดออกมาใช้ให้มากที่สุด

 

ระบบการบริหารผลการปฏิบัติงาน

การบริหารงานตามวัตถุประสงค์ของ BDMS  

1. การประเมินผลการปฏิบัติงานหลายมิติ

BDMS ประเมินศักยภาพในรูปแบบ 360 องศา มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการให้รางวัล เสริมสร้างการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน กำหนดแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงาน การเลื่อนตำแหน่งและการจ่ายค่าตอบแทน ซึ่งหลักการประเมินพิจารณาจากความสามารถหลัก รวมถึงความสามารถในการเป็นผู้นำและความรับผิดชอบในการทำงาน

ซึ่งการประเมินผลปฏิบัติงานจะพิจารณาจากดัชนีชี้วัดผลงาน (Key Performance Indicator: KPI) ขีดความสามารถหลัก (Core Competencies) ขีดความสามารถในการบริหารงาน (Leadership Competencies) โดยขอบเขตขีดความสามารถหลัก (Core Competencies) และความเป็นเลิศอยู่บนรากฐานของจริยธรรมซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัชญาองค์กร จรรยาบรรณการดำเนินธุรกิจ และความซื่อสัตย์ทางวิชาชีพ 

2. การประเมินผลแบบทีม

BDMS กำหนดการประเมินผลการปฏิบัติงานแบบทีมในหน่วยงานต่างๆ ขององค์กร เช่น หน่วยงานนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อยกระดับและผลักดันการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย โดยมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยการกำหนดเป้าหมายดัชนีชี้วัดผลงาน (KPIs) สำหรับแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้มั่นใจว่าทีมงานมีแรงจูงใจในการสรรค์สร้างนวัตกรรมในการพัฒนาองค์กร กำหนดการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานรายไตรมาสหรือรายปีทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการดำเนินโครงการ

3. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบทันท่วงที: Agile Conversations

โรงพยาบาลในเครือ BDMS ได้กำหนดการประเมินผลในรูปแบบการพูดคุย สื่อสาร แลกเปลี่ยนปัญหาและความคิดเห็นแบบเรียลไทม์ภายในองค์กรของผู้บริหารระดับสูงจนถึงระดับหน่วยงาน ผ่านโครงการ“Huddle Policy for Nurse” เป็นการดำเนินการโดยการจัดให้มีผู้บริหารและตัวแทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมในช่วงเช้า (Morning Brief) ของทุกวัน เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยมีแนวคิด 4 ด้าน ดังนี้

1. การนำประเด็นปัญหาต่าง ๆ มาพิจารณาไตร่ตรอง (Reflection of Issues) 

2. การเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น (Readiness of Actions)

3. การชื่นชมผู้ที่ทำความดี (Recognition of Employees)

4. การนำข้อมูลหรือแนวทางการแก้ปัญหาจากผู้บริหารกลับมาสื่อสารให้ทีมทราบและนำไปใช้แก้ปัญหา (Return of Solution) 

โดยแบ่งโครงสร้างตามการจัดทำ Huddle เป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับแผนก (Unit Huddle) , ระดับโรงพยาบาล (Hospital Huddle) และ ระดับบริหาร (Administration Huddle) กิจกรรมนี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารและการแก้ไขปัญหาข้ามสายงาน รวมถึงการสื่อสารแบบบนลงล่าง (Downward Communication) และการสื่อสารแบบล่างขึ้นบน (Upward Communication) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

ความผูกพันของบุคลากรต่อองค์กร

BDMS กำหนดแนวทางการสร้างความผูกพันกับบุคลากรต่อองค์กร และดำเนินการสำรวจความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร เพื่อทราบถึงความต้องการและโอกาสในการพัฒนาความผูกพันของพนักงานและปัจจัยที่มีผลต่อความผูกพันขององค์กร โดยนำข้อมูลที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรมาบริหารจัดการและพัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคลในองค์กร ซึ่งกำหนดให้ติดตามผลการดำเนินงานเป็นรายปี ผ่านการทำแบบสำรวจและดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาความผูกพันอย่างต่อเนื่อง

BDMS ดำเนินการจัดทำ แบบสำรวจความผูกพันของพนักงาน (Employee Engagement Survey) เป็นประจำทุกปี เพื่อประเมินระดับความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร และรับฟังความคิดเห็นที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 มีรายละเอียดวิธีการประเมินและผลสำรวจระดับความผูกพัน ดังนี้

1. การวิเคราะห์ข้อมูลบุคลากรที่ร่วมตอบแบบประเมิน

  • เพศ 
  • ช่วงอายุ
  • ระดับตำแหน่งงาน
  • ประเภทงาน
  • ระยะเวลาที่ทำงาน

2. ประเด็นหลักในการสำรวจความผูกพันของพนักงาน 4 ประเด็น ดังนี้ 

2.1 ความพึงพอใจในงาน โดยมีหัวข้อ :

  • เงินเดือน สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์

ตัวอย่าง : คำถามในแบบสอบถาม

  1. เงินเดือนรายเดือนที่เพียงพอสำหรับการเก็บออมในอนาคต
  2. สามารถมองเห็นโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพได้อย่างชัดเจนภายในองค์กร
  3. ความสัมพันธ์ที่ดีกับหัวหน้าทีมและเพื่อนร่วมงาน

2.2 วัตถุประสงค์

  • การรับรู้เป้าหมายและค่านิยมหลักขององค์กร

ตัวอย่าง : คำถามในแบบสอบถาม

  1. BDMS มีค่านิยมหลักที่สอดคล้องกับค่านิยมส่วนบุคคลของคุณ
  2. คุณรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท
  3. คุณรู้สึกว่าความสำเร็จของบริษัทคือความสำเร็จของคุณด้วย

2.3 ความสุข                      

  • ความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน

ตัวอย่าง : คำถามในแบบสอบถาม

  1. บรรยากาศโดยรวมในการทำงานที่ดี
  2. ในหน่วยงานของคุณมีความร่วมมือและการทำงานเป็นทีมอย่างชัดเจน
  3. คุณมีแรงจูงใจที่ดีในการมาทำงานทุกวัน

2.4 ความเครียด

  • สุขภาพกายและสุขภาพจิต

ตัวอย่าง : คำถามในแบบสอบถาม

  1. คุณกำลังเผชิญกับภาวะเหนื่อยล้าจากการทำงาน
  2. ความกดดันจากการทำงานก่อให้เกิดความเครียดที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวของคุณ
  3. บริษัทให้ความสำคัญของสวัสดิการ ความปลอดภัย และสุขภาพของพนักงาน

ผลการประเมินความผูกพันของพนักงาน

อัตราความผูกพันของพนักงาน BDMS ปี 2567  เท่ากับ ร้อยละ 83.30

เป้าหมายปี 2567 เท่ากับ ร้อยละ 80

สัดส่วนพนักงานที่เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ ร้อยละ 100

โครงการสร้างแรงจูงใจระยะยาวอย่างยั่งยืนแก่พนักงานองค์กร

BDMS มุ่งมั่นดำเนินโครงการสร้างแรงจูงใจระยะยาวอย่างยั่งยืนแก่พนักงานองค์กรโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงจูงใจในระยะยาวให้แก่พนักงานในระดับต่ำกว่าผู้บริหารระดับสูง โดยอิงจากผลการปฏิบัติงานเป็นสำคัญในช่วงปี 2565 – ปี 2567 บริษัทฯ มุ่งมั่นในการดำเนินการสร้างแรงจูงใจระยะยาวให้แก่พนักงานผ่านโครงการยกระดับนวัตกรรม การส่งมอบบริหารด้านสุขภาพที่ดีแก่ผู้รับบริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการขับเคลื่อนนวัตกรรมเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของ BDMS นำไปสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน 

โดย BDMS ขับเคลื่อน “โครงการ Idea Sharing Project” ซึ่งมุ่งเน้นการสนับสนุนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของพนักงานอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมพร้อมทั้งมอบแรงจูงใจอย่างสม่ำเสมอ และรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว BDMS จึงได้ดำเนินการจ่ายผลตอบแทนพนักงานอย่างยั่งยืน โดยยึดแนวคิดที่ว่า "นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ คนที่ไม่หยุดพัฒนา" 

ในปี 2568 BDMS ได้ขยายขอบเขตของโครงการแรงจูงใจระยะยาวอย่างยั่งยืนให้ครอบคลุมถึงโรงพยาบาลในเครืออื่น ๆ ได้แก่ โรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาลพญาไท และโรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วม สร้างแรงจูงใจที่ต่อเนื่อง และยกระดับวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมให้ทั่วทั้งองค์กร โดยการขยายโครงการนี้รวมถึงการริเริ่มโครงการสำคัญ เช่น “ANT Innovation” และ “the Ppitchs Awards” การแข่งขันด้านนวัตกรรมประจำปีนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาแนวคิดสร้างสรรค์และนำนวัตกรรมของตนไปสู่การปฏิบัติจริง โครงการนำไปสู่การสร้างผลงานที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกอย่างเป็นรูปธรรมในหลากหลายมิติ อาทิ:

  • การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
  • การยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า
  • การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

โครงการที่ 1 : Idea Sharing Project

รายละเอียดของโครงการ

BDMS ดำเนินโครงการ “Idea Sharing Project” ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กรในการส่งเสริมวัฒนธรรมนวัตกรรมในทุกมิติ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับขีดความสามารถขององค์กรในการบริหารความเสี่ยงและรับมือกับวิกฤต เสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูลและไซเบอร์ รวมถึงส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างสร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด “New S Curve”

เพื่อจูงใจให้พนักงานทุกระดับมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง 

BDMS ให้ความสำคัญกับการสร้างแรงจูงใจในดำเนินโครงการให้แก่พนักงานที่มีผลงานโดดเด่น ผ่านกลไกที่โปร่งใสและทันสมัย โดยได้นำระบบคะแนน Engagement ผ่านแอปพลิเคชันภายในองค์กร “Ampos” มาใช้ในการสะสมคะแนนจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือผลงานที่โดดเด่น

สำหรับพนักงานที่ได้รับคัดเลือกเข้าสู่รอบสุดท้ายของได้รับรางวัลค่าตอบแทนในรูปแบบโบนัสแรงจูงใจซึ่งจะจ่ายเป็นรายไตรมาสอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลานานกว่า 3 ปี หรือภายใต้ระยะเวลาที่กำหนดของการดำเนินโครงการ

โดยตัวอย่างหนึ่งของโครงการที่ประสบความสำเร็จภายใต้การดำเนินงานของ โครงการ Idea Sharing คือ “Telehealth Anywhere” ซึ่งเป็นการบูรณาการและประยุกต์ใช้นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการนี้ให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลใน 4 ด้านหลัก 

โดยมุ่งเน้นการยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพ และตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ

(1) การให้คำปรึกษาทางการแพทย์จากระยะไกล (Tele Consultation)
(2) บริการจัดส่งยาและให้คำแนะนำโดยเภสัชกรจากระยะไกล (Tele Pharmacy)
(3) ศูนย์รวมบริการสุขภาพ(Health Mall)
(4) แพ็กเกจบริการสุขภาพ (Health Package)

ส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการเสมือนจริงจากโรงพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รับประสบการณ์ที่ดีตลอดเส้นทางการรักษาในรูปแบบดิจิทัล

และ โครงการ “Paperless Health Information Exchange” เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จ โดยได้รับรางวัล Smart Healthcare in BDMS Awards 2023 โครงการนี้มุ่งเน้นการส่งข้อมูลผลวิเคราะห์ในรูปแบบดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ในการเข้าถึงข้อมูลเอ็กซ์เรย์ได้ด้วยตนเอง ทั้งยังช่วยเพิ่มความแม่นยำและความปลอดภัยของข้อมูล จากการดำเนินโครงการ ส่งผลให้:

  • ลดระยะเวลารอคอยได้ถึง ร้อยละ 70 
  • ลดงบประมาณค่าใช้จ่ายได้ถึง ร้อยละ 24 
  • เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลได้ถึง ร้อยละ 100

การสนับสนุนเป้าหมายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

โครงการ “Idea Sharing Project” ของ BDMS ดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมภายในองค์กรในทุกมิติ ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กระบวนการดำเนินงานรูปแบบธุรกิจ และการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม หนึ่งในโครงการที่ประสบความสำเร็จภายใต้แนวคิดนี้คือ “Telehealth Anywhere Project” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความยั่งยืนผ่านการบูรณาการเทคโนโลยีทางการแพทย์อันล้ำสมัย

โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นการขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ ให้ครอบคลุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยเฉพาะ ผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางที่มีโรคเรื้อรังและผู้ป่วยเด็ก ในขณะเดียวกันยังช่วยลดต้นทุนจากการเดินทางและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint)

BDMS มุ่งมั่นดำเนินการเพื่อให้เกิด การชดเชยแนวทางในการชดเชยปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) (Carbon Offset) หรือ ภาวะที่ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ มีค่ารวมสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) (Carbon Neutrality) ผ่านแนวทางเหล่านี้ ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถ:

  • ลดต้นทุน
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
  • เพิ่มรายได้
  • ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร

นอกจากนี้ โครงการเหล่านี้ยังเน้นการ:

  • ขยายการเข้าถึงบริการสุขภาพ
  • ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของผู้ใช้บริการและบุคลากรทางการแพทย์
  • ลดระยะเวลารอคอย
  • เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรด้านการเดินทาง

การดำเนินโครงการ Idea Sharing Project มีส่วนสำคัญในการยกระดับความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ส่งเสริมศักยภาพของบุคลากร และสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนขององค์กร

โครงการที่ 2 : Health Up Application

รายละเอียดของโครงการ

BDMS มุ่งมั่นการพัฒนาและต่อยอดโครงการอย่างต่อเนื่อง จึงได้ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งให้การยกย่องผลงานที่มีคุณูปการต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม และการยกระดับคุณภาพการให้บริการทางการแพทย์ โดยโครงการสำคัญที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดโครงการ คือ  Application “Health Up” ซึ่งเป็น Digital Health Platform แบบครบวงจรที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การให้บริการด้านสุขภาพที่เข้าถึงง่าย สะดวก และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ในยุคดิจิทัล

Application HealthUp ถือเป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงความสำเร็จของ โครงการแรงจูงใจระยะยาวเพื่อความยั่งยืน ในการส่งเสริมและยกระดับศักยภาพของบุคลากรในองค์กร โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าร่วมผ่านประเด็นหลักที่สำคัญ ดังนี้:

  • การมีส่วนร่วมของพนักงาน 
  • ความคิดสร้างสรรค์ 
  • ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน 

การส่งเสริมนวัตกรรมผ่านการให้รางวัลเพื่อสร้างแรงจูงใจแก่พนักงานในระยะยาว ส่งเสริมการคิดค้นนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืน BDMS ได้ดำเนินโครงการที่มุ่งเน้นการให้รางวัลแก่แนวคิดนวัตกรรมซึ่งสามารถนำไปสู่ การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน (Operational Efficiency), การยกระดับความพึงพอใจของผู้ป่วย (Patient Satisfaction) และการพัฒนาแนวทางปฏิบัติด้านการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน (Sustainable Healthcare Practices)

Application HealthUp ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาภายใต้โครงการส่งเสริมนวัตกรรมของ BDMS โดยมุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์ของผู้ป่วยและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านสาธารณสุขอย่างยั่งยืน โดยมีคุณสมบัติสำคัญ ดังนี้

1. การจองนัดพบแพทย์ออนไลน์
ผู้ใช้งานสามารถเลือกแพทย์ เวลา และแผนกที่ต้องการได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรอคิวเป็นเวลานาน

2. เข้าถึงผลตรวจสุขภาพได้ทันที
ลดความจำเป็นในการกลับมาโรงพยาบาลเพียงเพื่อรับเอกสารผลตรวจ

3. ติดตามประวัติสุขภาพและการนัดหมาย
รวมข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลไว้ในที่เดียว เพื่อให้สามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้สะดวก

4. บริการปรึกษาแพทย์ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Telecare)
ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถปรึกษาแพทย์จากที่บ้านได้ในกรณีที่ไม่สะดวกเดินทาง

5. ระบบสะสมคะแนน “Fitcoin”
ผู้ใช้งานสามารถสะสมคะแนนจากการใช้งาน Application และแลกรับสิทธิพิเศษด้านสุขภาพต่าง ๆ ได้

การสนับสนุนเป้าหมายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

Application HealthUp นวัตกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนที่ขับเคลื่อนโดยพนักงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนแนวทางการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน (Sustainable Healthcare) ผ่านการเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และการยกระดับประสบการณ์ของผู้ป่วยในทุกมิติ ในปัจจุบัน HealthUp ให้บริการครอบคลุมโรงพยาบาลในกลุ่มพญาไท–เปาโล จำนวน 11 แห่ง และได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมี ฟีเจอร์อัจฉริยะกว่า 21 รายการ ซึ่งตอบโจทย์ทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ อาทิเช่น การนัดหมายแพทย์ออนไลน์ , บริการปรึกษาแพทย์ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Telecare) และ ระบบสะสมคะแนน “Fitcoin”

โดยผลตอบรับของการดำเนินโครงการ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 แอปพลิเคชันมียอดดาวน์โหลดสะสมแล้วกว่า 635,000 ครั้ง คิดเป็นอัตราการเติบโตแบบปีต่อปี (YOY) ที่ร้อยละ 51.80 

จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Application HealthUp มีผู้ใช้งานประจำมากกว่า 509,000 คน และมีจำนวนธุรกรรมรวมต่อปีสูงถึง 69 ล้านรายการ ซึ่งสะท้อนถึงการตอบรับอย่างกว้างขวางจากผู้ใช้บริการ และแสดงให้เห็นถึง ผลกระทบเชิงบวก ที่มีต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กร ทั้งในด้านการให้บริการที่รวดเร็ว ลดขั้นตอนซ้ำซ้อน และเพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วย

สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อการดำเนินงานขององค์กรโครงการนี้ยังสอดคล้องกับ เป้าหมายด้านความยั่งยืนของ BDMS โดยมุ่งเน้นที่:

  • การส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพผ่านช่องทางดิจิทัล (Digital Health Access)
  • การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านระบบไร้กระดาษ (Paperless Systems)
  • การเสริมสร้างศักยภาพให้พนักงานมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนวัตกรรม ยกระดับประสิทธิภาพ และเพิ่มคุณภาพผลลัพธ์ด้านสุขภาพของผู้ป่วย

โครงการที่ 3 : Innovator Commercialize Program 

รายละเอียดของโครงการ

นอกเหนือจากโครงการระดับองค์กร BDMS ยังส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยพนักงานผ่านโครงการ “Innovation Commercialization Program” โครงการนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้กับนักนวัตกรรม (Innovators) โดยสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ อาหารเสริม และอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ:

  • เตียงผู้ป่วย NPI
  • อุปกรณ์พยุงตัวเพื่อความปลอดภัย (Safety Restraint)
  • อาหารเสริม Lavita

ผู้ที่มีโครงการนวัตกรรมได้รับการคัดเลือกจะได้รับสร้างแรงจูงใจแก่พนักงานในระยะยาวจากรายได้ (Revenue-Based Incentives) จากยอดขายของผลิตภัณฑ์ และสามารถนำรายได้ดังกล่าวไปใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงนวัตกรรมต่อไป นอกจากนี้ BDMS ยังให้ การสนับสนุนด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property – IP) อย่างครบวงจรสำหรับโครงการที่ได้รับอนุมัติ เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานของพนักงานได้รับการคุ้มครองและยกย่องอย่างเหมาะสม การเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการขึ้นทะเบียนสิทธิบัตร ช่วยส่งเสริมความรู้สึกเป็นเจ้าของ (Ownership) ความภาคภูมิใจ และความผูกพันในบทบาทของตนที่มีต่อความสำเร็จขององค์กร

แนวทางนี้ไม่เพียงแต่ ตอบแทนความคิดสร้างสรรค์และความริเริ่มของพนักงาน แต่ยังช่วยเสริมสร้างความผูกพันของบุคลากร โดยวางตำแหน่งให้พนักงานเป็น ผู้ร่วมสร้างนวัตกรรมในเส้นทางการเติบโตของ BDMS

การสนับสนุนเป้าหมายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

BDMS ได้ดำเนินโครงการ Innovation Commercialization เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการส่งเสริมให้พนักงานสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านการแพทย์และอาหารเสริมที่คำนึงถึง ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ทั้งในกระบวนการผลิตและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นต่อผู้บริโภค

นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นภายใต้โครงการนี้ให้ความสำคัญกับแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนในทุกขั้นตอน โดยเน้นประเด็นหลัก ดังนี้:

  • การคัดเลือกวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรม (Ethical Sourcing)
  • การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • การส่งเสริมประโยชน์ต่อสุขภาพของประชาชน

เพื่อให้การสนับสนุนเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ BDMS ได้กำหนด เกณฑ์การคัดเลือกโครงการ โดยพิจารณาจากความเชื่อมโยงกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนอย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึง

  • ผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม
  • ผลลัพธ์ในเชิงสังคม เช่น การสร้างงาน การเข้าถึงกลุ่มเปราะบาง หรือการเพิ่มโอกาสทางสุขภาพ
  • การส่งเสริมแนวทางการดูแลสุขภาพอย่างมีความรับผิดชอบ

โครงการนี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ แต่ยังทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการ ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว ตามพันธกิจของ BDMS ในการเป็นผู้นำด้านการแพทย์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

 

ระยะเวลาการจ่ายผลตอบแทนโดยเฉลี่ย

มีระยะเวลาต่อเนื่องเกิน 3 ปี

ร้อยละของพนักงานที่เข้าร่วมโครงการสร้างแรงจูงใจระยะยาวอย่างยั่งยืนแก่พนักงานองค์กร

ร้อยละ 78ของพนักงานทั้งหมดเข้าร่วมโครงการ