EN | TH
โครงการมูลนิธิเวชดุสิตฯ
ด้านการแพทย์
โครงการสนับสนุนการผ่าตัดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น (Health Charity for New Life)
การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสุขภาพ และคุณภาพที่ดีในผู้ป่วยยากไร้ เป็นหนึ่งในปณิธาณหลักของมูลนิธิเวชดุสิตฯ ที่ส่งมอบโอกาสนี้ทำให้ผู้ป่วยยากไร้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เสมือนบุคคลปกติทั่วไป จึงได้ทำดำเนินผ่าตัดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยจากข้อมูลทางสถิติพบว่าประชากรไทยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมกว่าร้อยละ 10 จากประชากรไทยทั้งหมดและมีแนวโน้มที่สูงขึ้นทุก ๆ ปี อันเกิดมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน (อ้างอิงข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) ริเริ่มที่ผ่าตัดข้อเข่าเทียมให้แก่ผู้ป่วยสูงอายุในการผ่าตัดข้อเข่า ซึ่งการผ่าตัดดังกล่าวเป็นการรักษาอาการที่ผู้ป่วยสามารถหายจากอาการได้ไวใช้เวลาพักฟื้นน้อย สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติจากการผ่าตัดได้รวดเร็วขึ้น โดยมูลนิธิเวชดุสิตฯ ร่วมมือเครือข่าย BDMS ผู้รับในการรักษาผู้ป่วยยากไร้ให้กลับมามีสุขภาพ และยกระดับคุณภาพให้ดีขึ้น โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผู้ชำนาญการด้านการผ่าตัดข้อเข่าและสะโพก
โครงการมูลนิธิสัญจร ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ Vejdusit Medical Mobile Unit
จากพันธกิจของมูลนิธิเวชดุสิตฯ ต่อการเข้าถึงสุขภาพที่ดีของเยาวชนไทย แต่ด้วยสภาพแวดล้อมของสังคมไทยในปัจจุบัน ทำให้เยาวชนจำนวนมากถูกผลักออกจากระบบการเข้าถึงสุขภาพที่ดี มูลนิธิเวชดุสิต ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จึงร่วมมือกับโรงพยาบาลกรุงเทพ ในการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อตรวจและรักษาโรคในเบื้องต้น โดยการนำทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่จิตอาสา ออกหน่วยตรวจร่างกายให้แก่เด็กด้อยโอกาส เพื่อให้ผู้ปกครองและครูผู้ดูแลทราบถึงปัญหาสุขภาพของเด็ก เพื่อเข้ารับการรักษาต่อไปตามสิทธิขั้นพื้นฐานของรัฐ และในเยาวชนบางรายที่เกิดโรคเรื้อรังต้องนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพให้แก่เยาวชนในการดูแล มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จำนวนทั้งหมด 4 หลัง ได้แก่ 1. บ้านแห่งความหวัง (ชุมชนอ่อนนุช) 2. บ้านสมวัย (ชุมชนคลองเตย) 3. บ้านศรีนครินทร์ (ชุมชนกองขยะหนองแขม) 4. บ้านเสือใหญ่ (ชุมชนเสือใหญ่ประชาอุทิศ) โดยดำเนินการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2558 และปัจจุบันยังดำเนินโครงการต่อเนื่องอย่างเสมอมา
โดยปัจจุบันประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช ศรีนครินทร์ เพิ่มพื้นที่ในการออกหน่วยตรวจสุขภาพ สถานแรกรับเด็กหญิงบ้านธัญญพร จังหวัดปทุมธานี ในการตรวจคัดกรองสุขภาพ และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพื้นฐาน เพื่อช่วยเหลือให้กลุ่มเยาวชนด้อยโอกาสเข้าถึงสุขภาพที่ดีต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
โครงการสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ให้ผู้ด้อยโอกาส (Green Health Care & Share)
ในสังคมปัจจุบันความตระหนักรู้เรื่องของเท่าเทียมของการผู้ด้อยโอกาสในสังคมมีเพิ่มสูงขึ้น อาทิ ทางเท้าสำหรับผู้พิการทางสายตา ทางขึ้นสำหรับผู้พิการขาขาด เป็นต้น ถึงอย่างงั้นในยังมีผู้ด้อยโอกาสที่ยังไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ มูลนิธิเวชดุสิตฯ จึงเป็นเสมือนสะพานบุญที่ส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่ได้มีการใช้งานแล้วอยู่ในสภาพดี ส่งมอบสู่ผู้ด้อยโอกาสที่ต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นโครงการแห่งการแบ่งปันน้ำใจ จาก “ผู้ให้” ถึงมือ “ผู้รับ” ปลายทาง
ในปี 2566 ส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปแล้วจำนวน 2,572 ชิ้น และสร้างอาชีพให้แก่ผู้พิการได้ผลิตรถเข็นคนพิการถูกต้องตามสรีระในการใช้ชีวิต ตลอดจนการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่องค์กรการกุศลอื่น ๆ โรงพยาบาลศูนย์ หรือโรงพยาบาลประจำอำเภอ เพื่อให้มีอุปกรณ์ทางการแพทย์เหมาะสมต่อการรักษาโรคที่มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาตลอดเวลา สร้างเสริมการเข้าถึงที่โอกาสที่เข้าถึงกันอย่างเท่าเทียม
ด้านการดูแลสุขภาพ
โครงการส่งเสริมการคัดกรองโรคเพื่อดูแลสุขภาพ (Green Health for Well Being)
อีกพันธกิจของหลักของมูลนิธิเวชดุสิตฯ คือการดูแลสุขภาพผ่านโครงการสาธารณกุศล โดยในปัจจุบันปัญหาสุขภาพจิตในเยาวชนที่อยู่ในช่วงการศึกษาอุดมศึกษา (ช่วงอายุ 18 – 22 ปี) เนื่องจากสภาพแวดล้อมของความกดดันในการศึกษา การปรับตัวออกมาบ้านที่อาศัยอยู่แต่กำเนิดมา ซึ่งปัญหาดังกล่าวต้องถูกได้รับการรับฟังและคัดกรองสุขภาพจิต โดยจิตแพทย์และนักจิตบำบัดเพื่อประเมินอาการ เพื่อได้รับการรักษาหรือการป้องกันการสูญเสียที่สายเกินกว่าจะแก้ไข
แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวทันสมัยและการตระหนักรู้สมัยใหม่ที่การพบจิตแพทย์ หรือนักจิตบำบัดไม่ใช่การป่วยเป็นโรคทางจิต และนิสิต/นักศึกษาไม่จำเป็นต้องเดินทางมาโรงพยาบาลก็สามารถพบจิตแพทย์ผ่านทางแอปพลิเคชั่น Bedee ในการปรึกษาและคัดกรองสุขภาพจิตเพื่อช่วยหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้มูลนิธิเวชดุสิตฯ ได้ขยายจากสุขภาพจิต มาดูแลถึงการคัดกรองมะเร็งในกลุ่มผู้ป่วยที่รอการวินิจฉัย โดยความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิเวชดุสิตฯ, สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และโรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ ในการคัดกรองผู้ป่วยที่รอการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในระบบหน่วยงานรัฐมาตรวจคัดกรองเพื่อทำการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น ด้วยวิธีการ PET-CT ที่คัดกรองมะเร็งอย่างถูกต้องและแม่นยำ
โครงการสนับสนุนการอบรมเพื่อช่วยชีวิต (Green Health Charity Support)
มูลนิธิเวชดุสิตฯ ตระหนักดีถึงการเกิดอุบัติเหตุและเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่อาจจะก่อให้เกิดต่อชีวิตทั้งตัวบุคคลเอง ครอบครัวที่ตนรัก และผู้ประสบพบเห็นเหตุการณ์ โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นได้ การช่วยเหลือชีวิตอย่างเร่งด่วน หรือการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อลดอาการบาดเจ็บจนนำไปสู่การสูญเสียในอนาคตได้ แต่ด้วยทักษะการช่วยเหลือชีวิตต้องมีความรู้แล้วทักษะความชำนาญเพื่อช่วยลดความเสี่ยง
มูลนิธิเวชดุสิตฯ ร่วมกับ เครือข่าย BDMS และกลุ่มจิตอาสา Share for life join for love ในการทำโครงการ อบรมเพื่อช่วยเหลือชีวิตในพื้นที่ต่าง ๆ ให้แก่ประชาชนทั่วไป สถาบันการศึกษา ชุมชน หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน กว่า 931 ครั้ง จำนวนผู้เข้าร่วมการอบรม 61,172 ราย ตลอดจนต่อยอดขยายไปยังการเพิ่มจำนวนผู้สอนทักษะการช่วยเหลือเพิ่มขึ้น เพื่อให้มีจำนวนผู้สอนทักษะการช่วยเหลือชีวิตเพียงพอต่อการสอนทักษะการช่วยเหลือครอบคลุมในทุกพื้นที่ ลดโอกาสการเสียชีวิตจากการเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
โครงการปรับปรุงห้องพยาบาลเพื่อสุขอนามัยเยาวชน (Green Health @ School)
จุดเริ่มต้นของโครงการ Green Health @School จากงบประมาณของโรงเรียนที่ต้องดูแลส่วนที่สำคัญอื่น ๆ มาเป็นอันดับแรก โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล โรงเรียนคือพื้นที่ศูนย์รวมของชุมชน แต่ห้องเก็บของกับห้องพยาบาล เสมือนจะเป็นพื้นที่เดียวกันเพียงแค่ฉากกันห้อง เห็นความสำคัญของการปรับปรุงห้องพยาบาล จัดซื้อยา และเวชภัณฑ์ ห้องพยาบาลให้เป็นพื้นที่สะอาด เป็นไปตามมาตราฐานที่เยาวชนในโรงเรียน สามารถมาใช้เพื่อเป็นสถานที่ของการรักษา มียา และเวชภัณฑ์ที่ทำใช้ในการรักษา หรือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตลอดจนการอบรมด้านการสาธารณสุข และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตามปณิธาณอยากเห็นสุขภาพของเยาวชนไทยสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีใครเจ็บป่วย
มูลนิธิเวชดุสิตฯ โดยริเริ่มโครงการตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555 เล็งเห็นความสำคัญของห้องพยาบาลในโรงเรียน เพราะบางชุมชนก็ใช้ห้องพยาบาลของโรงเรียนเป็นพื้นที่รักษาเบื้องต้นของชุมชน ปรับปรุง หรือสร้างห้องพยาบาลให้แก่โรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่ห่างไกล พร้อมมอบยาและเวชภัณฑ์ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงสุขภาพที่ดี และในปัจจุบันขยายโอกาสของโรงเรียนต่าง ๆ ที่จะได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเวชดุสิตฯ เพิ่มมากขึ้น อาทิ การปรับปรุงสนามเด็กเล่น, การปรับปรุงโรงอาหาร, การปรับปรุงห้องน้ำ และการทำระบบน้ำสะอาดในโรงเรียน เพิ่มมอบโอกาสการเข้าถึงสุขภาพที่ดีในโรงเรียนของพื้นที่ห่างไกลที่ขาดแคลน ปรับปรุงไปแล้วมากกว่า 200 โรงเรียน
ด้านช่วยเหลือสังคม
โครงการช่วยเหลือสังคม (Social Contribution Project)
ปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาการแปรปรวนของสภาพอากาศ ทำให้เกิดภัยพิบัติมากมายตามมาทั้งอุทกภัย ภัยหนาว และภัยจากฝุ่นขนาดเล็ก ที่จะก่อปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพในอนาคตเพิ่มมากขึ้น มูลนิธิเวชดุสิตฯ สนับสนุนหน่วยงานภาครัฐเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา และจ. พิษณุโลก ด้วยถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และการตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่อาสาดูแลสุขภาพของผู้ประสบภัย จากโรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ และโรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก ปัญหาภัยหนาว ก็ยังเป็นปัญหาที่คร่าชีวิตผู้ประสบภัยในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ในบางพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงเครื่องนุ่มห่มที่อบอุ่นได้
มูลนิธิเวชดุสิตฯ เล็งเห็นถึงความสูญเสียจากปัญหาดังกล่าว จึงจัดส่งเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม ถุงมือและถุงเท้า เพื่อใช้ในการป้องกันในฤดูหนาว โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มชนชาติพันธุ์ต่าง ๆ ผู้ยากไร้บนพื้นที่ห่างไกล ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ และจ.เชียงราย ให้ได้รับเครื่องนุ่มห่มกันหนาวก่อนเป็นอันดับแรก และปัญหาของฝุ่นขนาดเล็ก หรือ P.M. 2.5 ในพื้นภาคเหนือของไทยเป็นปัญหาที่ใหม่ ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ด้วยงานวิจัยทางการแพทย์บ่งชี้ว่าปัญหาฝุ่นส่งผลต่อระบบหายใจ การพัฒนาของระบบหายใจ และพัฒนาการของเด็ก ด้วยเด็กก่อนวัยเรียนเป็นเด็กที่ไม่สามารถช่วยเหลือและปกป้องตัวเองจากภัยนี้ได้
มูลนิธิเวชดุสิตฯ จึงร่วมมือกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการมอบเครื่องกรองอากาศสำเร็จรูปให้กับศูนย์พัฒนาเด็ก สร้างห้องปลอดฝุ่นมอบอากาศที่บริสุทธิ์ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ด้วยความร่วมมือที่ร่วมกันสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผลิตกล่องอากาศดีที่สามารถกรองอากาศ และเติมอากาศที่ดี ในงบประมาณที่น้อยกว่าเครื่องกรองอากาศสำเร็จรูปทั่วไป ทำให้เกิดเป็นโครงการ “คืนลมหายใจที่ไร้ฝุ่น” นำร่องในพื้นที่จ.เชียงใหม่ และจ.เชียงราย พร้อมกับจับมือพันธมิตรเพิ่มมากขึ้นได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่, โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงราย และบริษัท ลลิตา พีพีโอ จำกัด ในการเพิ่มห้องปลอดฝุ่นให้มากขึ้นและในอนาคตหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในทุกพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในภาคเหนือจะเป็นพื้นที่ปลอดฝุ่นที่เด็กทุกคนสามารถหายใจได้อย่างปลอดภัย จนนำสู่การนำไปใช้ในครอบครัว ชุมชนต่อไปในอนาคตจำนวน 305 ห้อง 145 ศูนย์เด็กเล็ก และขยายโอกาสในพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มเติมในพื้นที่อื่นให้ได้รับอากาศที่บริสุทธิ์และทุก ๆ ที่เป็นพื้นปลอดภัย
โครงการสนับสนุนทุนการศึกษา เพื่อสร้างชีวิต (Vejdusit Scholarship for Future life)
การเพิ่มโอกาสทางการศึกษาเป็นการช่วยเหลือที่ยั่งยืน ไม่ให้เยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษาจากปัญหาสังคมที่กดทับ โดยมูลนิธิเวชดุสิตฯ ริ่เริ่มโครงการ “ปลูกต้นกล้า สร้างพยาบาล” ในปี 2566 ดำเนินการเป็นปีแรกด้วยปณิธาณของการไม่อยากให้เยาวชนที่ยากไร้ต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา และสานฝันให้เกิดพยาบาลผู้มีใจรักษาในการดูแลผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในระบบสาธารณสุขในประเทศไทย
ในปี 2566 มูลนิธิเวชดุสิตฯ สนับสนุนทุนการศึกษาพยาบาลใน 24 สถาบัน จำนวน 102 ทุน ๆ ละ 280,000 บาทตลอดหลักสูตรการศึกษา โดยทุนการศึกษาที่ให้แก่นิสิต/นักศึกษาพยาบาลเป็นทุนการศึกษาให้เปล่าไม่ต้องใช้ทุนคืนมูลนิธิฯแต่อย่างใด เพื่อให้ผู้ได้รับทุนการศึกษาจะได้มีเป้าหมายในการเรียน เป็นพยาบาลที่มีจิตใจเมตตารักการดูแลผู้ป่วย และสร้างโอกาสในการมอบทุนการศึกษาเช่นนี้ให้แก่กลุ่มนิสิต/นักศึกษาในกลุ่มวิทยาศาสตร์สายสุขภาพให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นต่อไป