
EN | TH
คุณภาพการให้บริการและความปลอดภัยของผู้ป่วย

แนวทางการจัดการ
BDMS กำหนดนโยบายควบคุมคุณภาพการให้บริการและแนวทางการดำเนินงานขององค์กร ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของ BDMS โดยมุ่งเน้นการส่งมอบบริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพ โดยยึดหลักการสร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อส่งมอบการบริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ และมีคุณค่าสูงสุด ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานระดับประเทศและระดับสากลแก่ผู้รับบริการ
การพัฒนาคุณภาพและแผนด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย

BDMS จัดทำแผนการพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วย เพื่อสนับสนุนภารกิจและกลยุทธ์ขององค์กร ดำเนินการระบุ ทำความเข้าใจ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยบูรณาการการพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วยในทุกกระบวนการทำงาน เพื่อส่งผลให้บริการดีขึ้น ผลลัพธ์ทางคลินิกดีขึ้น ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน ส่งมอบคุณค่าการบริการทางการแพทย์ที่มีคุณค่าสูงสุด โดยแผนงานดังกล่าวครอบคลุม การประเมินกระบวนการทำงานและการกำกับดูแล การบริหารจัดการ เพื่อให้การบริการทางการแพทย์บรรลุมาตรฐานของการรับรองคุณภาพของโรงพยาบาลและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง
การบูรณาการองค์กร (Organizational Integration) กำหนดโครงสร้างและกรอบการทำงานโดยบูรณาการแผนพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วยเข้ากับกระบวนการทำงานอย่างครอบคลุมและเป็นสหสาขาวิชาชีพทั่วทั้งองค์กร | จัดลำดับความสำคัญ (Priorities) จัดลำดับความสำคัญประเด็นความสำคัญด้านคุณภาพและความปลอดภัยของผู้รับบริการ ผ่านการพิจารณาและประเมิน โดยใช้เกณฑ์พิจารณาจากโอกาสในการเกิดความเสี่ยง ผลกระทบ กฎระเบียบข้อบังคับ ข้อกำหนดการรับรองมาตรฐาน ข้อร้องเรียนจากผู้ป่วย เป็นต้น |
แนวทางการดำเนินงาน (Methodology) พัฒนากระบวนการควบคุมคุณภาพ และมาตรฐานการบริการ โดยใช้หลักการ วางแผน-ลงมือทำ-เรียนรู้-ปรับปรุง (Plan-Do-Study-Act: PDSA) โดยเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ ในกระบวนการพัฒนากระบวนการ การออกแบบโครงการ หรือการวิเคราะหสาเหตุของกรณีด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย สู่การวางแผนพัฒนาการบริการเพื่อคงไว้ซึ่งมาตรฐานการบริการและความปลอดภัยสูงสุด | ระบบการรายงานและการรักษาความลับ (Reporting Systems and Confidentiality) สื่อสารประเด็นด้านคุณภาพและมาตรการที่เกี่ยวข้องตามแนวทางที่คณะกรรมการบริหารจัดการคุณภาพกำหนด เพื่อวิเคราะห์และรายงานผลให้แก่คณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องพิจารณา เพื่อใช้เป็นแนวทางพัฒนาคุณภาพการให้บริการผู้ป่วย โดยผลประเมินจะถูกเก็บเป็นความลับและเข้าถึงได้เฉพาะบุคคลเท่านั้น |
การทบทวนความปลอดภัยของผู้ป่วย และการพัฒนาคุณภาพประจำปี (Annual Review of Patient Safety and Quality Improvement Plan) รวบรวมผลการดำเนินงาน เพื่อประเมินผลงานด้านคุณภาพรายปี โดยกำหนดดัชนีชี้วัดความสำเร็จที่สอดคล้องกับเป้าหมายงานด้านคุณภาพขององค์กร ควบคู่กับการประเมินมาตรฐานคุณภาพตามหลักสากล พร้อมรายงานผลแก่คณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาการจัดทำแผนการพัฒนาคุณภาพการให้บริการต่อไป | การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยและประเมินวัฒนธรรมความปลอดภัย (Patient Safety Culture Survey) ประเมินวัฒนธรรมความปลอดภัยของผู้ป่วยของโรงพยาบาล จากการมีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจของบุคลากรทุกระดับ และนำมาประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งผู้บริหารสามารถนำผลลัพธ์ไปสู่การวางแผนพัฒนาองค์กรและส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรได้อย่างตรงประเด็น เพื่อที่จะนำไปใช้สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในองค์กร นับเป็นคุณูปการที่ทางโรงพยาบาลจะ ได้มอบให้กับสังคมโดยแท้ |
กระบวนการรับรองคุณภาพ | |||
การพัฒนาคุณภาพ การออกแบบระบบการรักษาพยาบาล สถานพยาบาลออกแบบระบบงานให้เหมาะสมและสอดคล้องตามแนวทางที่มาตรฐานกำหนด | การควบคุมคุณภาพภายใน (Internal quality control) เพื่อป้องกันความผิดพลาดและความไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้า โดยการตรวจสอบระบบงาน ฝึกอบรมพนักงาน วิเคราะห์ข้อมูล การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและการติดตามประเมินผล | การประเมินคุณภาพ สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล เข้าประเมินการพัฒนาคุณภาพของสถานพยาบาลตามมาตฐานที่กำหนด
| การรับรองคุณภาพ เมื่อสถานพยาบาลผ่านเกณฑ์การประเมิน จึงให้การรับรอง โดยมีอายุการรับรองตามแต่ละมาตรฐานที่กำหนด
|
ผลการรับรองมาตรฐานของ BDMS ปี 2567 | ||
BDMS ดำเนินการตามนโยบายและมาตรฐานการให้บริการด้านสุขภาพครอบคลุมการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพและความปลอดภัยเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลการรับรองดังนี้ | ||
12 โรงพยาบาลในเครือ BDMS เข้าร่วมการประเมินคุณภาพ JCI และได้รับการรับรองคุณภาพทั้งหมด | 13 โรงพยาบาลในเครือ BDMS ที่มีศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน ได้รับการรับรอง CAMTS Global | ร้อยละ 100 ของโรงพยาบาลขอรับรองหรือต่ออายุการรับรองมาตรฐาน JCI, HA, Advanced HA ผ่านการรับรองมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วย |
มาตรฐานคุณภาพองค์กรของ BDMS ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล
การรับรองคุณภาพสถานพยาบาล(Hospital Accreditation Thailand: HA) และการรับรองขั้นก้าวหน้า (Advanced HA) | มาตรฐานการดูแลรักษาพยาบาล(Joint Commission International: JCI) | มาตรฐานการดูแลรักษาพยาบาลรายโรค (Clinical Care Program Certificate: JCI CCPC) |
มาตรฐานเทคโนโลยีสารสนเทศโรงพยาบาล (Electronic Medical Record Adoption Model: EMRAM) โดย HIMSS Analytics (Healthcare Information and Management Systems Society: HIMSS) |
(Commission on Accreditation of Medical Transport Systems Global: CAMTS Global (US&EU)) | การรับรองคุณภาพห้องปฏิบัติการของวิทยาลัยพยาธิวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Laboratory Accreditation Program, College of American Pathologists: CAP) |
ISO/IEC 27001 มาตรฐานการบริหารจัดการความปลอดภัยของข้อมูล (Information Security) | ISO 27799 มาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลด้านสุขภาพ (Health Informatics) | ISO 15189 มาตรฐานระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เพื่อความถูกต้องแม่นยำของผลการทดลอง สำหรับใช้สนับสนุนการวินิจฉัย รักษา ควบคุม และป้องกันโรค |
ISO 15190 มาตรฐานความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ มุ่งเน้นระบบบริหารจัดการ สภาพแวดล้อมในการทำงาน มาตรการป้องกันอันตราย ความมั่นคงทางชีวภาพ (Biosecurity) และการจัดการของเสีย | ISO 9001 มาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพตามมาตรฐานสากล (Quality Management System) | ISO 9002 มาตรฐานระบบคุณภาพด้านการกำกับดูแลการผลิต การติดตั้ง และการบริการ (Quality Assurance in Production, Installation and Servicing) |
ISO 17025 มาตรฐานข้อกำหนดว่าด้วยความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบและห้องปฏิบัติการสอบเทียบ (Testing and Calibration Laboratories) | มาตรฐานการรักษาโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม โดยราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย (Royal College Physicians of Thailand: RCPT) | การตรวจประเมินรับรองคุณภาพคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน โดย The Strategic Initiative for Developing Capacity of Ethical Review (SIDCER)1 |
มาตรฐาน Society for Simulation in Healthcare (SSH) สำหรับศูนย์ฝึกอบรมทักษะทางคลินิก (BDMS Simulation Center) | มาตรฐานแรงงานไทย (มรท.) ระดับพื้นฐาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน | PIC18 มาตรฐานการให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ตาม พรบ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 |
มาตรฐานดูแลผู้สูงอายุฉุกเฉิน โดย American College of Emergency Physicians (ACEP) Geriatric Emergency Department Accreditation | มาตรฐานศูนย์บริบาลผู้บาดเจ็บสำหรับประเทศไทย โดยราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย (Royal College of Surgeons of Thailand: RCST) Trauma Center | องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่พัฒนาชุดตัวชี้วัดด้านสุขภาพที่เน้นผู้ป่วยสำหรับเงื่อนไขทางการแพทย์ต่าง ๆ เพื่อวัดผลลัพธ์ด้านสุขภาพของผู้ป่วย International Consortium for Health Outcomes Measurement
|
มาตรฐานและระบบประกันคุณภาพการรับรองผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานสากล Good Manufacturing Practice | มาตรฐานรับประกันแนวปฏิบัติที่ดี ในการรับรองความปลอดภัย คุณภาพ และความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ยาตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่บริษัทผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง คลังสินค้า บริษัทกระจายสินค้าและการขนส่ง Good Storage and Distribution Practice for Pharmaceutical | การรับรองมาตรฐานระดับสากลในการดูแลผู้เดินทางท่องเที่ยวเพื่อการรักษาพยาบาล รวมด้านการแพทย์ การต้อนรับและประสบการณ์ของผู้ป่วย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศจะได้รับการดูแลตามมาตรฐานในระดับสากล Global Healthcare Accreditation (GHA) |
แนวทางปฏิบัติ เพื่อการประชาสัมพันธ์การตลาด และการติดฉลาก
BDMS ได้กำหนดแนวทางการทำการตลาด การขาย และการติดฉลากยา ที่สอดคล้องตามข้อกำหนดมาตรฐานสากลและเป็นไปอย่างโปร่งใส เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับยาและการรักษาที่ถูกต้องและตรงตามความต้องการ
หลักเกณฑ์การโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
การโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลที่โฆษณาได้โดยไม่ต้องยื่นอนุมัติ
ชื่อ ที่ตั้ง และสัญลักษณ์ของสถานพยาบาล | คุณวุฒิของผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข | อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่ายาเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่น ๆ | สิทธิของผู้ป่วยตามกฎหมาย | ||
การบริการทางการแพทย์ ที่มีในสถานพยาบาล วัน เวลา ที่ให้บริการ ตามที่ได้รับอนุญาต | ความรู้ทางวิชาการและผลงานวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ไม่เป็นเท็จ หรือไม่โอ้อวดเกินจริง หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการให้บริการของสถานพยาบาล พร้อมคำเตือนถึงความเสี่ยงจากการรักษา อันตราย หรือผลข้างเคียง | การแจ้งข่าวสาร เช่น แจ้งทำลาย เวชระเบียน แจ้งย้ายสถานที่ แจ้งกิจกรรมในวันสำคัญ ป้าย“สอบถามอัตราค่ารักษาพยาบาลได้ที่นี่” |
ลักษณะต้องห้ามของการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
เป็นเท็จ ไม่มีมูลความจริง เกินจริง โอ้อวดเกินจริง หลอกลวง ปกปิดความจริง หรือทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นจริง ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือเปรียบเทียบเพื่อให้เข้าใจว่าการบริการดีกว่าที่อื่น | ทำให้เข้าใจว่ามีบุคลากรหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งไม่มีในสถานพยาบาลหรือไม่เป็นไปตามโฆษณาหรือประกาศ และไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ | ชื่อสถานพยาบาลทำให้เข้าใจหรือหลงเชื่อว่าประกอบกิจการที่ไม่ตรงกับที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการ |
สื่อสารด้วยวิธีการที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ร่างกาย จิตใจ หรือก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้ใช้บริการหรือประชาชนทั่วไป | ไม่เหมาะสม สร้างความหวาดกลัว หรือมีลักษณะเป็นการส่อไปในทางลามกอนาจาร หรือมีลักษณะเป็นการกระตุ้นหรือยั่วยุทางกามารมณ์ | ไม่สุภาพหรือแสดงอาการทุกข์ทรมานของผู้ป่วย |
มีลักษณะเป็นการดูหมิ่น ให้ร้าย เสียดสี หรือทับถมสถานพยาบาล หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่น | มีลักษณะอันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรม อันดีของประชาชน | รวมอยู่กับการถวายพระพร หรือการกระทำอย่างอื่นที่อ้างอิงสถาบันพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ |
หลักเกณฑ์การจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ และค่าบริการอื่น ๆ ของสถานพยาบาล
ใบสั่งยาและใบแจ้งราคายา ตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยออกให้ผู้ป่วยล่วงหน้าทุกครั้ง ใบสั่งยาและใบแจ้งราคายาต้องชัดเจน อ่านเข้าใจได้ง่ายระบุชื่อสามัญทางยาหรือชื่อการค้า รูปแบบยา ขนาดหรือปริมาณ จำนวนวิธีใช้ และระยะเวลาในการใช้ | แจ้งราคา ยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ และค่าบริการอื่นของสถานพยาบาล ให้ผู้ป่วยทราบก่อนจำหน่าย ก่อนให้บริการ หรือเมื่อได้รับการร้องขอ | แสดง QR Code เปรียบเทียบราคายายา เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นของสถานพยาบาล ที่กรมการค้าภายในจัดทำบริเวณโรงพยาบาลในที่เปิดเผยชัดเจน และอย่างเพียงพอต่อผู้ใช้บริการ | |
ประเมินค่ารักษาพยาบาล ตามการวินิจฉัยเบื้องต้นให้ผู้ป่วยทราบทุกครั้ง | ใบแจ้งราคายา ระบุชื่อยาตามใบสั่งยาและราคาต่อหน่วย |
การสื่อสารฉลากยา
โรงพยาบาลในเครือ BDMS มีการจำหน่ายยาซึ่งต้องควบคุมให้ติดฉลากที่ภาชนะและหีบห่อบรรจุยาพร้อมรายละเอียดฉลากตามข้อกำหนดดังนี้
ชื่อ-สกุลผู้ป่วย เลขที่ประจำตัว และวันเดือนปีเกิด | วันที่ที่ได้รับยา | ชื่อยา ซึ่งประกอบไปด้วยชื่อทางการค้า และ / หรือ ชื่อทางเคมี และชื่อสามัญทางยาเป็นภาษาไทย รูปแบบของยา ความแรงของยา |
หมายเลขครั้งที่ผลิต (Lot Number หรือ Batch number) | วันหมดอายุของยา | วิธีการใช้ยา |
จำนวนยาที่ได้รับ | ข้อบ่งใช้ หรือ สรรพคุณของยา ข้อควรระวัง หรือ คำแนะนำเพิ่มเติมของยา | ชื่อแพทย์ที่สั่งยา |
ช่องทางติดต่อและผลการร้องเรียนประเด็นด้านการสื่อสารการตลาด แนวปฏิบัติด้านการขาย และการติดฉลากยา
BDMS ได้เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ทั้งจากบุคคลภายในและภายนอกองค์กร สามารถติดต่อ เสนอความเห็น ร้องเรียน และรายงานการกระทำที่ไม่ถูกต้องผ่านช่องทางตามที่ได้ประกาศไว้ใน “จรรยาบรรณของบริษัท” และเผยแพร่ไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท ตัวอย่างผลดำเนินงานในปี 2567 ไม่มีข้อร้องเรียนและไม่มีกรณีละเมิดข้อกำหนดด้านการสื่อสารการตลาดและการติดฉลากยาที่ได้รับการยืนยันในเครือ BDMS
การให้บริการสำหรับผู้มีบุตรยาก
BDMS ในฐานะผู้นำบริการด้านสุขภาพดำเนินการเพื่อยกระดับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้บริการอย่างยั่งยืน ซึ่งรวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องการส่งเสริมความเป็นครอบครัวด้วย โดยคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากของ BDMS Wellness Clinic ครอบคลุมถึงบริการที่ได้มาตรฐานสากลและผ่านข้อกำหนดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 โดยมีตัวอย่างบริการ ดังนี้
การแช่แข็งตัวอ่อน (Embryo Freezing) เพื่อลดอัตราการเกิดทารกแฝดและลดจำนวนตัวอ่อนต่อรอบการใส่กลับโพรงมดลูกและเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้น โดยไม่ต้องทำการกระตุ้นไข่ใหม่ | การฉีดเชื้อผสมเทียมแบบฉีดน้ำเชื้ออสุจิ สำหรับคู่สมรสที่มีบุตรยาก โดยใช้ยากระตุ้นรังไข่ให้ถุงไข่เติบโตเพิ่มขนาดขึ้น ก่อนการตรวจอัลตราซาวด์และใช้ยาเพื่อกำหนดการตกไข่ พร้อมกับคัดน้ำเชื้อเลือกตัวอสุจิเพื่อเข้าผสมกับไข่ให้เกิดการตั้งครรภ์ |
การทำเด็กหลอดแก้ว (In Vitro Fertilization treatment - IVF) การปฏิสนธิภายนอกร่างกาย โดยทำการตรวจและเตรียมความพร้อมเพื่อเก็บไข่ ก่อนดำเนินการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการร่วมกับการให้ฮอร์โมนเพื่อเตรียมมดลูกให้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ ก่อนฉีดตัวอ่อนที่พร้อมกลับเข้าไปฝังตัวในโพรงมดลูก ผ่านทางช่องคลอดเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป | แช่แข็งเซลล์ไข่หรือฝากไข่ (Egg Freezing) วิธีรักษาเซลล์ไข่ (Oocyte) จากรังไข่ (Ovaries) ด้วยการแช่แข็งสำหรับใช้ในการตั้งครรภ์เมื่อต้องการมีบุตรในอนาคต โดยฉีดฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่เพื่อให้ได้ไข่ที่มีคุณภาพก่อนเก็บและแช่แข็งที่มีอุณหภูมิ -195 องศาเซลเซียส เพื่อคงประสิทธิภาพของเซลล์ไข่เพื่อนำมากลับใช้ได้ในอนาคต |
บริการเพื่อการยุติการตั้งครรภ์ (Termination of Pregnancy)

BDMS ในฐานะผู้นำบริการด้านสุขภาพดำเนินการเพื่อยกระดับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้บริการอย่างยั่งยืน โดยยึดถือการปฏิบัติตามข้อกำหนด กฎหมาย รวมถึงมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างการบริการทางการแพทย์ และหัตถการทางการแพทย์ ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาด้านจรรยาบรรณ และข้อกำหนดกฎหมายอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ BDMS ได้เล็งเห็น และให้ความสำคัญ โดยมีการจัดทำแผนงาน และกระบวนการดำเนินงานที่เป็นขั้นตอน โดยมีการกำหนดให้สอดคล้องตามกฎหมาย อาทิเช่น การบริการที่เกี่ยวข้องกับการยุติการตั้งครรภ์ BDMS ได้กำหนดแนวปฏิบัติแก่โรงพยาบาลและคลินิกในเครือข่ายให้ปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดและสอดคล้องกับข้อกำหนด โดยเฉพาะแนวปฏิบัติตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 305 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
Xx กราฟิก xx
| Xx กราฟิก xx
| Xx กราฟิก xx
|
Xx กราฟิก xx
| Xx กราฟิก xx
| |
กรณีที่ต้องให้บริการดังกล่าว สูตินรีแพทย์และจิตแพทย์ต้องวินิจฉัยและให้ความเห็นว่าสามารถดำเนินการได้ ก่อนรายงานต่อผู้บริหารสูงสุดและหารือแนวทางหัตถการกับคณะกรรมการจริยธรรม (Ethics Committee) ซึ่งตลอดกระบวนการต้องทำการบันทึกและแจ้งแก่ผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เมื่อสิ้นสุดกระบวนการบริษัทต้องส่งรายงานการยุติการตั้งครรภ์แก่แพทยสภาต่อไป นอกจากนี้ BDMS ไม่มีการผลิตหรือกระจายสินค้าประเภทยาคุมกำเนิด (Contraceptives) หรือยาเพื่อยุติการตั้งครรภ์ (Abortifacients) นอกเหนือไปจากแนวปฏิบัติดังกล่าว |
การบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์
BDMS มีการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับผู้รับบริการอย่างเป็นระบบ โดยการแต่งตั้งคณะทำงานบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์แต่ละโรงพยาบาล (Customer Relationship Management Working Team) ออกแบบ กระบวนการบริการ เพื่อสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้รับบริการ ติดตามประสบการณ์ของผู้ป่วยและญาติ(Patient Experience) จากการรับฟังเสียงสะท้อนของผู้รับบริการ พัฒนาระบบบริการสร้างประสบการณ์ที่ดีในสิ่งที่ผู้รับบริการต้องการ และใช้การประเมินความผูกพันของผู้รับบริการต่อองค์กร “Net Promoter Score (NPS)” เป็นเครื่องมือเพื่อสะท้อนเชื่อมั่นและความความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty) นำมาวิเคราะห์หาโอกาสในการพัฒนาและจัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพการบริการที่เกี่ยวข้องให้ดีและตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการยิ่งๆขึ้น ซึ่งส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจในระยะยาว
กลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ

BDMS กำหนดกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อสร้างความพึงพอใจของผู้รับบริการสอดคล้องตามรูปแบบคุณภาพการให้บริการ (Service Quality Model) ที่มุ่งเน้นใน 6 ด้าน ดังนี้
การตอบสนอง (Responsiveness) ให้บริการอย่างสุภาพ เคารพความเป็นส่วนตัว เข้าใจความต้องการของผู้ป่วย แสดงความต้องการช่วยเหลืออย่างจริงใจ และอธิบายรายละเอียดให้เข้าใจง่าย | การชี้แจง (Clarify) ชี้แจงและสื่อสารข้อมูลการให้บริการอย่างถูกต้อง สมบูรณ์ และสามารถเข้าใจได้ง่าย | คำมั่นสัญญา (Promise) การให้สัญญาว่าจะรักษาและให้บริการอย่างดีที่สุด ด้วยบุคลากรที่มีความสามารถและมีความปลอดภัย |
กายภาพ (Physical) จัดกายภาพของพื้นที่ให้บริการโดยพิจารณาถึงสิ่งอำนวยความสะดวก สภาพแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ วิทยาการ และกระแสข้อมูลของผู้รับบริการ | ความยั่งยืน (Sustainability) ผลลัพธ์การให้บริการที่มีเสถียรภาพและมีมาตรฐานสูง | ความสุขสบาย (Delight) การให้บริการอย่างตั้งใจ ไร้รอยต่อ มีความยืดหยุ่นและสม่ำเสมอ |
ความมุ่งมั่นในการดำเนินงานทางการตลาดอย่างมีจริยธรรม
กรอบการบริหารจัดการตามหลักจริยธรรมของ BDMS
BDMS จัดตั้งคณะกรรมการจริยธรรมเพื่อสนับสนุนการปฎิบัติงานตามหลักจริยธรรม อันประกอบด้วยบุคลากรจากสาชาวิชาชีพต่างๆ เช่น บุคลากรด้านการดูแลสุขภาพ ฝ่ายดูแลและสนับสนุนผู้ป่วย ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล ฝ่ายบริหารจัดการคุณภาพ ทนายความ และผู้แทนศาสนา นอกจากนี้ คณะกรรมการจริยธรรมยังมีหน้าที่กำหนดแนวทางการปฎิบัติแก่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ป่วย และครอบครัวผู้ป่วยที่อยู่ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งในช่วงของการรักษา และอาจมีส่วนร่วมในการวางแผน พัฒนานโยบายและขั้นตอนการดำเนินงานของโรงพยาบาล ทั้งนี้ BDMS วางกรอบการบริหารจัดการจริยธรรมตามมาตรฐาน JCI (ฉบับที่ 7) เรื่องการกำกับดูแลกิจการ ความเป็นผู้นำ และทิศทางองค์กร พร้อมนำมาปรับใช้ในการดำเนินงาน ดังนี้
1. ให้ความสำคัญกับผู้ป่วยเป็นอันดับหนึ่ง
1) ดูแลเอาใจใส่ทุกภาคส่วนและทำงานร่วมกับผู้ประกอบการในระดับบุคคลและระดับองค์กรอย่างเต็มที่ พร้อมร่วมมือกันสนับสนุนผู้ป่วยและผู้ดูแลให้ได้รับการรักษาพยาบาลที่ดีที่สุด
2) ผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแลสุขภาพทุกคนได้รับสิทธิและมีความรับผิดชอบร่วมกันในการปรับปรุงการเข้าถึงการบริการและการให้บริการเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วย
3) คุ้มครองสิทธิและข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วย
4) ส่งเสริมให้มีการตัดสินใจร่วมกันระหว่างผู้ป่วยหรือตัวแทนผู้ป่วยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษา ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาเองได้
5) กำหนดนโยบายและขั้นตอนการดำเนินงานเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมต่อผู้ป่วย โดยยึดผู้ป่วยเป็นหลักในการรักษา
2. ส่งเสริมการทำงานอย่างมีอิสระตามหลักจริยธรรม
1) ปฏิบัติงานและดำเนินธุรกิจตามหลักจริยธรรมอย่างมืออาชีพและเหมาะสม ยึดมั่นในคุณธรรมและความโปร่งใสในวิชาชีพ
2) จัดหาช่องทางรายงานข้อผิดพลาดทางการรักษาและข้อกังวลเกี่ยวกับจริยธรรม รวมถึงพฤติกรรมที่ก่อกวนการรักษาและ/หรือสร้างปัญหาในการดำเนินงานแก่ผู้ให้บริการด้านสุขภาพและบุคลากรอื่น ๆโดยที่ผู้รายงานได้รับการยกเว้นโทษ
3) สนับสนุนสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นไปตามหลักจริยธรรม และส่งเสริมการปรึกษาหารือกันในประเด็นเรื่องจริยธรรมอย่างเปิดเผยได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกลงโทษ
4) ให้ความเชื่อมั่นว่ามีการป้องกันการเลือกปฎิบัติในการจ้างงานและให้บริการด้านการดูแลผู้ป่วยในบริบทของข้อกำหนดทางวัฒนธรรมและกฎระเบียบของประเทศ
3. สนับสนุนความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการทำงาน
1) เปิดเผยข้อมูลการเป็นเจ้าของและผลประโยชน์ทับซ้อน
2) บริการผู้ป่วยด้วยความซื่อสัตย์
3) เรียกเก็บค่าบริการอย่างเป็นธรรม จ่ายผลตอบแทนและจัดสรรการชำระเงินโดยยึดการรักษาของผู้ป่วยเป็นหลัก
4) เสนอทางแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพภายในระยะเวลาที่เหมาะสมเมื่อเกิดข้อขัดแย้งทางจริยธรรม